Page 131 - Transitioning Thailand : Copying with the Future
P. 131
ื
(3) ด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม ทางการคลังของประเทศ มาประกอบการพิจารณา เช่อมโยง
ู
ี
ู
ั
ิ
บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสุขภาพ ข้อมลสวสดการกับฐานข้อมลทะเบยนราษฎร์ เพ่อใช้
ื
�
ื
เพ่อวางแผนกาลังคนด้านสุขภาพแบบบูรณาการ และสร้าง วิเคราะห์และพัฒนารูปแบบสวัสดิการ ประเมินผลกระทบ
มาตรฐานกลางระหว่างกองทุนในระบบหลักประกันสุขภาพ มาตรการ/โครงการด้านสวัสดิการสังคม อย่างต่อเนื่อง
ี
ิ
เพ่มประสิทธิภาพการจัดสรรเงินอุดหนุนและเบ้ยยังชีพ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการให้ความช่วยเหลือ
�
ั
โดยนาองค์ประกอบด้านดัชนีราคาผู้บริโภคและความย่งยืน ผู้มีรายได้น้อยในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
Policy Brief เรื่อง “การประเมินผลกระทบและความ
ย่งยืนของการบรโภคของผู้สูงอายุภายใต้ระบบ
ั
ิ
บ�านาญของประเทศไทย”
ั
สศช. ได้ศึกษาและประเมินผลความย่งยืนในการบริโภคของผู้สูงอาย ุ
�
และระบบบาเหน็จบานาญของประเทศไทย โดยอาศัยข้อมูลบัญชีกระแส
�
การโอนประชาชาติ (National Transfer Account: NTA) เป็นเคร่อง
ื
มือส�าคัญในการวิเคราะห์ให้เห็นประเด็นส�าคัญและช่องว่างเชิงนโยบาย
ที่น�าไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ั
สถานการณ์การบริโภคของผู้สูงอายุใน ข้อค้นพบจากการประเมินผลกระทบความย่งยืน
ประเทศไทย ในปี 2562 จากข้อมูลบัญชีกระแสการโอน ของการบริโภคของผู้สูงอาย ได้แก่ (1) ในอีก 20 ปีข้างหน้า
ุ
ประชาชาต (NTA) ในปี 2562 พบว่า ผู้สูงอายุมีระดับ คาดว่าประเทศต้องเผชิญกับปัญหาความย่งยืนของการ
ั
ิ
ั
ี
การบริโภคค่อนข้างคงท่ในตลอดช่วงวัยสูงอาย โดยเฉล่ย บรโภคของผ้สูงอายเพราะระดบการบรโภคในตลอดช่วงชวต
ี
ู
ุ
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
143,605 บาทต่อคนต่อปี ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายท่ใช้ในการ ที่ไม่สมดุลกับรายได้จากการท�างาน โดยมูลค่าการบริโภค
ี
ด�ารงชีพที่ผู้สูงอายุเป็นผู้จ่ายเองเป็นหลัก เช่น ที่อยู่อาศัย จะต้องปรับลดลงประมาณครงหนงของมลค่าปัจจบัน ส่วนหน่ง
ู
ึ
ึ
่
ึ
ุ
่
ื
เคร่องนุ่งห่ม ค่าอาหาร ค่าเช้อเพลิง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เป็นผลจากแนวโน้มอัตราการเจริญพันธุ์ท่ลดลงและประชากร
ี
ื
แนวโน้มรายจ่ายด้านสุขภาพของผู้สูงอายุจะปรับตัวเพ่มสูง มอายยนยาวขน (2) ช่องว่างระหว่างมูลค่าการบริโภคกับ
ึ
ี
ุ
ื
้
ิ
ึ
�
ี
�
ิ
ึ
ข้นตามอายุท่เพ่มมากข้น ซ่งภาครัฐมีบทบาทสาคัญในการ มูลค่ารายได้จากการทางานในตลอดช่วงชีวิตอยู่ในระดับสูง
ึ
ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ โดยในช่วงเกษียณอายุเราจาเป็นต้องมีเงินออมอย่างน้อย
�
ี
ี
64.8 ของรายจ่ายด้านสุขภาพเฉล่ยของประชากรอายุ 60 ปี 9.91 แสนบาท หรือเฉล่ย 5,108 บาท ต่อคนต่อเดือน และ
ึ
ั
ี
ข้นไปท้งหมด ขณะท่ภาคเอกชนหรือครัวเรือนมีบทบาท (3) ระบบรายได้ยามชราภาพของประเทศไทยมีความ
ี
ในการออกค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพท่ตากว่าภาครัฐ โดยวัย หลากหลายและแตกต่างกันระหว่างกลุ่มอาชีพ ซ่งหากเทียบ
่
�
ึ
ื
สูงอายุเป็นช่วงวัยท่มีรายได้จากการทางานไม่เพียงพอต่อการ กับมูลค่าเงินข้นตาท่ผู้สูงอายุต้องมีเพ่อให้เพียงพอต่อการ
�
ี
�
่
ั
ี
บริโภคจงจาเป็นตองอาศัยเงินโอนจากทงภาครฐ ภาคเอกชน ดารงชีพในช่วงชีวิตท่เหลือ แรงงานภาคเอกชนและแรงงาน
้
ั
้
ั
�
ี
ึ
�
และการจัดสรรสินทรัพย์ เป็นกลไกสาคัญในการช่วยชดเชย นอกระบบมีแนวโน้มที่จะมีรายได้ยามชราภาพไม่เพียงพอ
�
การขาดดุลรายได้ นอกจากน ระบบกองทุนบาเหน็จบานาญในปัจจุบันยังขาด
�
�
ี
้
ื
ความยืดหยุ่นในการเปล่ยนอาชีพของแรงงาน หรอการ
ี
เคล่อนย้ายระหว่างระบบหรือกองทุน
ื
รายงานประจำาปี 2566 | สำานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | 129