Page 333 - ๗๐ พรรษา เจ้าหญิงแห่งปวงประชา
P. 333
ิ
�
ำ
ั
่
หันงส่อน่ม่มากมายู่หัลายู่ชนด็ นาด็วงจตัเรงรนชนสด็ใส
�
ิ
�
่
ิ
้
ึ
่
ั
ใหัความร่สาเรงบนเทงใจ ฉนจงใฝีใจสมานอ�านทกวน
ั
ิ
ิ
ุ
ำ
้
ั
ม่วชาหัลายู่อยู่�างตั�างจาพวก ลวนสะด็วกคนได็ใหัสขสนตั ์
ำ
้
ิ
้
้
้
ั
ุ
�
วชาการสรรมาสารพน ชัวช่วนฉนอ�านได็ไม�เบอเลยู่
้
่
�
ั
ั
ิ
ั
ี
�
�
ั
ิ
ี
่
์
ในป ๒๕๒๐ ยงทรงพระราชนพนธโคลงเกยวักบการอานทมื่ควัามื่ไพเราะยง เปนโคลงทหองสมื่ดตาง ๆ
ี
้
ุ
ั
ี
่
็
ี
�
�
ิ
ั
่
่
็
่
ำ
ิ
อญเชญไปเปนคาขวััญและเผู้ยแพรอยางแพรหลาย ดงนี �
ั
ิ
้
โลกค่อมนทรแผู้ว ไพศาล
ิ
้
หัองหัับสรรโอฬาร เลศแล ้
่
ุ
หันงส่อด็จป็ระแจทวารไขส หัองนา
ั
้
�
ั
้
ิ
จกพบรตันแท ก�องแกววทยู่า
้
ั
์
ี
รองศาสตัราจารยู่ศภรตัน เลศพาณ์ชยู่กล อดตอาจารย์
ุ
์
ุ
ั
ิ
์
ิ
ิ
์
�
ั
ิ
ึ
ิ
ุ
ั
ิ
สาขาวัชาศิลปศิาสตร มื่หาวัทยาลยสโขทยธรรมื่าธราช ซึ่งเคย
ุ
�
ั
ี
์
์
ี
ั
ั
�
ี
่
เรยนรวัมื่ชนเดยวักบพระองคทคณะอกษ์รศิาสตร จฬาลงกรณ ์
ุ
มื่หาวัทยาลย และไดรบพระมื่หากรณาธคณทรงชวัยเหลอดานตาง ๆ
ุ
้
ิ
ั
่
่
่
้
ั
ิ
�
ี
่
ิ
่
้
ี
ิ
�
ั
ึ
้
ิ
มื่าตงแตยงเปนนสตตอเนองจนถึงวัาระสดทายของชวัต ไดเขยนเลา ่
ั
่
ุ
็
ิ
ี
ี
ี
ทมื่าของโคลงบทน�ใน “เทพรัตนบรรณศิลป์” ฉบบพมื่พครงท ๑๑
�
ั
�
ั
�
์
ิ
์
�
่
่
่
็
่
ิ
วัาพระองคทรงเลาถึึงเกรดประวััตของการแตงโคลงบทนีวัา
“...อาจารยู่์ศศวงศ (ป็งตัระกล) มาขอคาขวญ
่
์
ิ
ั
ึ
ำ
ิ
ใหัสมาคมหั้องสมด็ (แหังป็ระเทศไทยู่) เอาไป็พมพ ์
้
ุ
�
ิ
่
์
ั
�
ุ
�
่
่
�
ั
้
ั
ในหันงสอทระลกสป็ด็าหัหัองสมด็ (ครงท ๒) หัยู่บ
ึ
่
�
�
�
ึ
็
้
กระด็าษข�นมาเขยู่นอยู่างรวด็เรวในเวลาไมก่นาท แลว
่
ั
ใหัอาจารยู่ศศวงศไป็เลยู่ทนท่...”
ิ
์
์
้
การทพระองคโปรดการประพนธคากลอนนน เนองดวัยทรงไดรบการปลกฝึงจากสมื่เดจพระนางเจา
้
์
่
ำ
�
์
�
ี
�
ั
้
้
้
ั
ั
ั
็
�
ิ
่
สรกต พระบรมื่ราชินนาถึ พระบรมื่ราชชนนีพนปหลวัง ททรงให้อานและทรงเล่าเรองวัรรณคดีไทยสาคญ ๆ
�
่
ิ
ิ
ิ
ี
ำ
ั
ี
ั
�
ี
่
ั
ี
�
ั
�
แดพระองคมื่าตงแตยงทรงพระเยาวั ดงในพระราชนพนธบทควัามื่เรอง “แมื่” ทรงเลาถึงทมื่าของควัามื่ชอบ
ั
่
ึ
่
่
์
่
์
�
ิ
์
วัรรณคด ควัามื่ตอนหนึ�งวัา
ี
่
่
็
�
�
้
�
“...เมอตัอนเลก ๆ ตัังแตั�เริมเร่ยู่นป็ระถ่ม ท�านสอนภาษาไทยู่ โด็ยู่การใหัอ�าน
ิ
�
่
�
่
ิ
�
�
ิ
่
ั
่
่
่
�
วรรณ์คด็เรองยู่นโรงสามเรอง คอ พระอภยู่มณ์ อเหันา และรามเกยู่รตั โด็ยู่เฉพาะอยู่างยู่ง
่
่
ิ
้
่
เรองอเหันา ท�านใหัท�องกลอนตัอนทเพราะ ๆ เช�น ‘ว�าพลางทางชมคณ์านก โผู้นผู้กจบ
�
�
ั
ไมองม’ ่ �
้
ึ
็
้
คงจะเป็็นเพราะได็อ�านกลอนมาแตั�เลก ๆ ทาใหัขาพเจาชอบเร่ยู่นวรรณ์คด็่ไทยู่
้
้
้
ำ
ชอบแตั�งกลอน…”
329