Page 69 - Transitioning Thailand : Copying with the Future
P. 69
่
ี
1.1 ปัจจัยหลักด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ บริหารจัดการอยู่ในอันดับคงท โดยปัจจัยย่อยด้านผลิต
(Economic Performance) อยู่ในอันดับที่ 16 หรือดีขึ้น ภาพและประสิทธิภาพมีอันดับดีขึ้นถึง 9 อันดับ โดยพบว่า
ั
้
ู
้
่
อย่างมากถึง 18 อันดับ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดในช่วง 3 ปี ผประกอบการของไทยทงขนาดใหญ ขนาดกลางและขนาด
ิ
ึ
ท่ผ่านมา เน่องจากปัจจัยย่อยทุกปัจจัยมีอันดับดีข้น โดย ย่อมมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลเพ่มข้น ตลอดจน
ึ
ื
ี
ื
ิ
เฉพาะอย่างย่งปัจจัยย่อยด้านการลงทุนระหว่างประเทศ ความสามารถในการใช้เคร่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีม ี
ึ
มีอันดับดีขึ้น 11 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 22 และด้านการค้า การปรับตัวเพมข้นถึง 6 อันดับ ปัจจัยย่อยด้านการเงินม ี
่
ิ
ี
ิ
ึ
ระหว่างประเทศ มีอันดับดีขึ้น 8 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 29 อันดับเพ่มข้น 5 อันดับจากตัวช้วัดด้านการระดมทุนใน
ิ
ื
ซ่งเป็นผลจากการต่นตัวของนักลงทุนท่เร่มกลับมาดาเนิน ตลาดหลักทรัพย์ และมูลค่าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
ี
ึ
�
กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังจากการชะลอตัวในช่วงการ มีการปรับตัวดีขึ้น และปัจจัยย่อยด้านทัศนคติและค่านิยม
ึ
แพร่ระบาดของโรคติดเช้อไวรัสโคโรนา 2019 และการฟื้นตัว มีอันดับดีข้น 6 อันดับอันเป็นผลมาจากทัศนคติของ
ื
ึ
�
ของภาคการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะภาคส่งออกในปี ผประกอบการต่อการดาเนินธุรกิจภายในประเทศปรับตัวดีข้น
ู้
ื
2565 ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 1.4 ปัจจัยหลักด้านโครงสร้างพ้นฐาน (Infra-
ี
ึ
่
1.2 ปัจจัยหลักด้านประสิทธิภาพภาครัฐ (Gov- structure) อยู่ในอันดับท 43 หรือดีข้น 1 อันดับจากอันดับ
่
ี
่
ึ
ี
ernment Efficiency) อยู่ในอันดับท 24 หรือดีข้น 7 อันดับ ท 44 ในปี 2565 โดยปัจจัยย่อยด้านโครงสร้าง
ึ
จากอนดบท 31 ในปีก่อนหน้า ซงเป็นผลจากอนดบของ พ้นฐานทางเทคโนโลยีมีอันดับดีข้นถึง 9 อันดับ และปัจจัย
ั
่
ั
ื
ั
ึ
ี
ั
่
ี
ื
ปัจจัยย่อยด้านการคลังที่ปรับตัวดีขึ้น 4 อันดับ โดยเฉพาะ ย่อยด้านสาธารณูปโภคพ้นฐาน อยู่ในอันดับคงท เป็นผล
่
ี
ตัวช้วัดในส่วนท่เก่ยวข้องกับการใช้จ่ายภาครัฐ และตัวช้วัด จากการลงทุนด้านโครงสร้างพ้นฐานของภาครัฐท ี ่
ื
ี
ี
ี
�
ึ
ด้านการหลีกเล่ยงภาษีท่มีการปรับตัวดีข้นไปในทิศทาง ดาเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมท้งการลงทุนโครงสร้างพ้น
ี
ี
ั
ื
ิ
ี
่
เดียวกน ในขณะท่ปัจจัยย่อยด้านกรอบการบริหารสถาบัน ฐานทางดิจิทลทตอบสนองความต้องการของภาคธรกจ
ั
ี
ั
ุ
ี
และด้านกฎระเบียบทางธุรกิจท่ปรับตัวดีข้น 7 อันดับ จาก และการพัฒนาประสิทธิภาพของความเร็วอินเทอร์เน็ต
ึ
ตัวช้วัดด้านการดาเนินนโยบายของธนาคารกลาง และ อย่างไรก็ดีปัจจัยย่อยด้านโครงสร้างพ้นฐานด้าน
ื
�
ี
ตัวช้วัดท่เก่ยวข้องกับกฎหมายแรงงานมีการปรับตัวท่ดีข้น วิทยาศาสตร์ ด้านสุขภาพและส่งแวดล้อม และด้านการ
ิ
ี
ี
ี
ึ
ี
ี
�
ี
1.3 ปัจจัยหลักด้านประสิทธิภาพภาคธุรกิจ ศึกษายังคงมีอันดับท่ลดลงและตัวช้วัดจานวนมากในกลุ่ม
่
�
ึ
ี
่
(Business Efficiency) อยู่ในอันดับท 23 หรือท่ดีข้น น้ยังอยู่ในระดับตาอย่างต่อเน่อง อาท การขาดแคลน
ี
ื
ี
ิ
ี
ื
7 อันดับจากอันดับท 30 ในปีก่อนหน้า เน่องจากปัจจัย บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรทางการศึกษา
่
ี
ึ
ย่อยทุกด้านมีอันดับดีข้น ในขณะท่ปัจจัยย่อยด้านการ ตลอดจนประเด็นด้านทรัพย์สินทางปัญญา
2 ก�รยกระดับคว�มส�ม�รถในก�รแข่งขันของไทย
แม้ว่าผลการจัดอันอันขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศปี 2565 ของไทยปรับตัว
ื
ึ
ดีข้น แต่เม่อปี 2564 พบว่าอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยตกลงมาอยู่ในอันดับ
ที่ 33 จากอันดับที่ 28 ในปี 2563 ท�าให้ สศช. ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การยกระดับ
ี
ี
ื
ความสามารถในการแข่งขันของไทย” เพ่อแก้ไขปัญหาและยกระดับกลุ่มตัวช้วัดท่เป็นจุดอ่อน
อย่างต่อเน่อง โดยมีหน่วยงานท่มีภารกิจเก่ยวข้องกับการขับเคล่อนตัวช้วัดต่าง ๆ เพ่อร่วมกัน
ื
ี
ี
ี
ื
ื
ี
วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ปัญหาและอุปสรรค สาหรับการดาเนินงานของภาครัฐท่ต้องปรับตัว
�
�
ี
และร่วมเสนอแนวทางเพ่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในมิติท่เก่ยวข้องกับภารกิจ
ื
ี
และพัฒนาต่อยอดเป็นแผนงาน/โครงการของหน่วยงานต่อไป ผ่านการใช้เคร่องมือนวัตกรรม
ื
นโยบาย โดยได้รับความร่วมมือจากห้องปฏิบัติการนโยบายประเทศไทย (Thailand Policy
Lab: TPLab) ซึ่งมีผลการประชุมและประเด็นข้อเสนอแนะสรุปได้ ดังนี้
รายงานประจำาปี 2566 | สำานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | 67