Page 117 - Transitioning Thailand : Copying with the Future
P. 117
ั
ั
ี
ิ
้
ื
่
ื
ู
เงินให้ก้ยมเพอช่วยเหลือลูกหน้ทได้รบผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคตดเชอไวรส
ี
่
ื
ื
ื
โคโรนา 2019 และบางส่วนมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สินเช่อเพ่อให้ผู้ประกอบการ
ึ
และประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากข้น ส่วนด้านการลงทุนในตราสารทุนเพ่มมากข้น
ิ
ึ
884,471 ล้านบาท เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 423,349 ล้านบาท ในปี 2563 โดยเป็นการลงทุน
ในต่างประเทศของสถาบันการเงินอื่นเป็นหลัก นอกจากนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยมีการ
่
ตั้งทุนส�ารองเงินตราระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 309,337 ล้านบาท เพื่อการด�ารงสภาพคลอง
ี
่
และรองรับความเส่ยงจากภาคตางประเทศ ในภาวะท่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง ขณะท ี ่
ี
ี
ิ
ึ
การลงทุนในตราสารหน้เพ่มข้น 278,706 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนตราสารหน ้ ี
ี
ื
ภาครัฐเป็นหลัก ส่วนการลงทุนในตราสารหน้ภาคต่างประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเน่อง
�
ส่วนการถือเงินสดและเงินฝากลดลง 254,683 ล้านบาท ทาให้เงินทุนส่วนใหญ่ของภาคสถาบัน
ิ
ึ
การเงินไหลเข้าสู่ภาคการผลิตเพ่มข้น 3,504,502 ล้านบาท เทียบกับการเพ่มข้น 2,766,319
ึ
ิ
ล้านบาท ในปี 2563 ขณะท่เงินท่ใช้หมุนเวียนในภาคสถาบันการเงินด้วยกันเองลดลง
ี
ี
444,359 ล้านบาท เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 571,058 ล้านบาท ในปี 2563
ด้านแหล่งเงินทุนของภาคการเงิน ยังคงมาจากการรับฝากเงินและเงินกู้ยืม
เป็นหลัก โดยการรับฝากเงินและกู้ยืมเพิ่มขึ้น 842,752 ล้านบาท และ 374,063 ล้านบาท
ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 2,217,441 ล้านบาท และ 809,888 ล้านบาท ตามล�าดับ
�
ี
ในปี 2563 ขณะท่เงินสารองประกันภัยจากบริษัทประกันภัยชะลอตัวลงเช่นกัน ส่วนการออก
ี
ตราสารหน้และตราสารอนุพันธ์ลดลง 483,610 ล้านบาท และ 54,164 ล้านบาท ตามลาดับ
�
3.3 ภาครัฐบาล ในปี 2564 รัฐบาลยังคงดาเนินนโยบายการคลังแบบ
�
ขาดดุลอย่างต่อเน่อง ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างการออมและการลงทุนขาดดุล 1,739,486
ื
ล้านบาท เทียบกับการขาดดุล 1,324,934 ล้านบาท ในปี 2563 หลังจากการระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ท�าให้รัฐบาลต้องกู้เงินภายใต้พระราชก�าหนด
ให้อานาจกระทรวงการคลังก้เงนเพอฟืนฟเศรษฐกิจและสงคม โดยการออกตราสารหนสุทธ ิ
ิ
ี
้
ู
้
ื
่
ั
ู
�
รวมเพิ่มขึ้น 1,348,363 ล้านบาท เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1,187,301 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า
ึ
ั
ั
่
ี
ซงมาจากการออกพนธบตรรัฐบาล ต๋วสัญญาใช้เงินของรัฐบาล และต๋วเงินคลังท่เพ่มข้น
ั
ึ
ิ
ั
�
757,701 ล้านบาท 502,253 ล้านบาท และ 88,409 ล้านบาทตามลาดับ นอกจากน ้ ี
ู
�
ิ
ิ
่
ี
ิ
ึ
ั
ี
ยงมการก้เงนเพมขน 646,938 ล้านบาท เช่นเดียวกับการสารองในส่วนประกันภัยท่เพ่มข้น
้
ึ
ี
103,726 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการออกตราสารอนุพันธ์ลดลง ส่งผลให้รัฐบาลมีหน้สิน
สุทธิเพิ่มขึ้น 1,816,980 ล้านบาท
ิ
ด้านการใช้ไปของเงินทุน รัฐบาลมีสินทรัพย์สุทธิเพ่มข้น 40,197 ล้านบาท
ึ
เทียบกับปี 2563 ท่เพ่มข้น 218,627 ล้านบาท มาจากการปล่อยกู้เพ่มข้น 38,741 ล้านบาท
ี
ิ
ึ
ึ
ิ
ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจเพ่อสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาโครงสร้าง
ื
ื
ิ
พ้นฐาน อีกท้งรัฐบาลมีการลงทุนในตราสารทุนเพ่มข้น 29,606 ล้านบาท เทียบกับท่เพ่มข้น
ึ
ั
ึ
ี
ิ
98,433 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า ส่วนการลงทุนในตราสารหน้ลดลง 69,207 ล้านบาท
ี
เป็นการลดลงอย่างต่อเน่องต้งแต่ปี 2562 เช่นเดียวกับการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ และการ
ื
ั
ถือเงินสดและเงินฝากที่ลดลง 3,382 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าที่เพิ่ม
ขึ้น 4,918 ล้านบาท และ 190,370 ล้านบาท ตามล�าดับ ส�าหรับส่วนที่เหลือเป็นรายการ
ค้างรับอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 44,459 ล้านบาท
รายงานประจำาปี 2566 | สำานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | 115