Page 221 - ๗๐ พรรษา เจ้าหญิงแห่งปวงประชา
P. 221
ั
ิ
้
้
ุ
ุ
ั
่
็
การประดบตงในปรมื่ณฑิลพระเมื่ร โปรดใหใชตงของจงหวัดนาน ดวัยสมื่เดจพระเจาพนางเธอ
้
�
ี
้
ั
ุ
ั
ี
้
่
ั
ิ
่
ั
้
่
ั
�
ั
ิ
ี
เจาฟื้ากลยาณวััฒนา กรมื่หลวังนราธวัาสราชนครนทร ทรงมื่พระตาหนกอยทจงหวัดนาน เหมื่อนเชนครง
ำ
์
ิ
้
�
่
ี
ิ
ิ
งานพระราชพธถึวัายพระเพลงพระบรมื่ศิพสมื่เดจพระศิรนครนทราบรมื่ราชชนน ทรงมื่พระตาหนกอย ้ ่
ิ
ี
ำ
ี
็
ั
ี
ั
�
้
ั
ั
่
ี
ุ
ั
ิ
ุ
ุ
่
ั
ุ
�
็
ำ
ทดอยตง จงหวัดเชยงรายไดทอตงมื่าถึวัายประดบในปรมื่ณฑิลพระเมื่รมื่าศิ และทรงชวัยจดหาวัสดอนทจาเปน
�
ี
ี
่
ั
้
ี
้
ตองใชประดบตกแตงพระเมื่รและอาคารในปรมื่ณฑิลจากสาธารณรฐประชาชนจน
ุ
ิ
ั
ิ
ั
ำ
สาหรบพระราชพิธถึวัายพระเพลิงพระบรมื่ศิพพระบาทสมื่เด็จพระบรมื่ชนกาธิเบศิร มื่หาภมื่พล
้
ี
ิ
ุ
ิ
ี
ุ
ั
อดลยเดชมื่หาราช บรมื่นาถึบพตร พระองคมื่พระราชวันจฉยใหกรมื่ศิลปากรพฒนาแบบพระเมื่รมื่าศิ
ิ
้
์
ิ
ั
่
ุ
้
�
ิ
ทรงบษ์บก ๙ ยอด และไดพระราชทานชอใหแกโรงขยายแบบวัา “วธิานสถ่าป็กศาลา” ควัามื่หมื่ายของ
้
่
่
ี
�
ี
่
่
ั
ี
�
่
็
่
�
ุ
ุ
ี
�
ั
ั
�
้
ั
ชอแปลวัาโถึงอนเปนทตระเตรยมื่งานสถึาปตยกรรมื่ เมื่อเทยบกบการสรางพระเมื่รมื่าศิทกครงทผู้านมื่า
่
ี
�
่
ี
ึ
คร�งนถึอวั่าขนาดของโรงขยายแบบมื่ีขนาดใหญมื่าก บริเวัณผู้นังด้านหน�งของโรงขยายแบบแห่งนยังมื่ ี
ั
�
้
ิ
ิ
ั
์
ิ
�
่
�
ี
ั
ั
ตวัอกษ์รลายพระหตถึ “วัธานสถึาปกศิาลา (โรงขยายแบบ)” หลอดวัยเรซึ่นตดประดบ รวัมื่ทงมื่โตะทรงงาน
ั
ั
พระองค์ไดเสดจฯ มื่าทอดพระเนตรควัามื่คบหนาในการก่อสรางพระเมื่รุมื่าศิอย่างใกล้ชดเปนประจำา
้
็
่
้
้
็
ิ
ิ
็
้
ิ
ั
ทกเด่อน สรางขวััญและกาลงใจใหแกเจาหนาที�และคณะผู้้ปฏบตงานเปนอยางยง
ิ
�
่
่
้
ำ
้
ุ
ั
้
้
�
่
ั
ี
ุ
็
็
ิ
�
ี
่
�
้
การสรางพระเมื่รุมื่าศิครงนเปนงานทใหญกวัาทกครงทผู้านมื่า แมื่้จะเปนการออกแบบส�งกอสราง
�
่
่
ี
ั
�
้
ำ
ั
ชวัคราวั แตตองทาใหมื่ควัามื่แขงแรง คงทน และสมื่พระเกียรต พระองคทรงตระหนักถึงการใชวัสด ุ
่
้
ิ
ึ
็
ั
�
ี
้
้
์
้
ี
้
ิ
ั
ิ
ุ
�
ั
ี
้
ิ
และวัธการก่อสรางทควัรสอดคล้องกบแนวัคิดเรองการหมืุ่นเวัยนใชทรพยากรให้เกดประสิทธภาพสงสด
่
�
ี
้
่
้
้
ำ
้
ำ
จงมื่พระราชดารสลดการใชไมื่และนาทรพยากรทสามื่ารถึหมื่นเวัยนมื่าใชใหมื่ได ทมื่สถึาปนกผู้ออกแบบ
้
ั
ี
ี
ุ
ึ
ิ
ี
้
�
ั
ี
และทมื่วัศิวักรได้นอมื่นาแนวัคิดนมื่าประยุกตใชในการทำางาน เชน การเปล�ยนจากเสาไมื่้เปนเสาเหล็กท ี �
็
�
ี
ำ
้
ี
ิ
่
้
์
ี
สามื่ารถึถึอดประกอบนาไปใชใหมื่ได โดยยดโครงสรางสวันตาง ๆ ไวัดวัย
้
่
้
่
้
้
ึ
ำ
่
้
้
�
้
ิ
พระองคทรงประกอบเกสรชนในของดอกปารชาต ประกอบดวัยดอกไมื่ไหวั ๒ ดอก ดอกไมื่เฟื้อง
์
้
้
ั
�
ั
ั
�
ิ
ั
ำ
์
�
๒ ดอก ซึ่งเกสรชันในนี�เรยกวัานพรตน ๙ ดวัง ประกอบดวัยอญมื่ณ ๙ ชนด ไดแก เพชรนาหนก ๒ สตางค ์
ี
่
่
้
ึ
้
�
ี
้
้
้
ั
ิ
ั
ลอมื่รอบดวัยทบทมื่ บษ์ราคมื่ มื่รกต มื่กดา นล โกเมื่น เพทาย และไพฑิ้รย ถึ่อเปนขันตอนสดทายของการ
�
็
ิ
ุ
์
ุ
ุ
่
ิ
ำ
ิ
ั
ั
�
ำ
ำ
่
ทาดอกปารชาต กอนนาไปประดบพระจตกาธาน และเสดจฯ ไปทอดพระเนตรการทาเครองสดประดบ
็
้
ำ
ิ
ิ
�
่
้
พระจตกาธานอน ๆ เชน การรอยกรองใบแกวั การทาดอกปารชาตสด ตลอดจนทอดพระเนตรการแทงหยวัก
่
่
ุ
จากชางหลวังและชางพนถึน ๔ ภมื่ภาค และทรงแทงหยวักฝึพระหตถึลายซึ่มื่บนแถึลง ซึ่งอยชนบนสด
ั
ุ
�
�
ิ
้
ั
ี
์
้
ิ
่
่
้
�
ั
ึ
�
่
�
้
ของเร่อนยอดที ๙ ดวัย
217