เมื่อวันที่ 11-12 ธันวาคม 2568 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาไท (มพท.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การใช้งานแพลตฟอร์ม TISEP ขับเคลื่อนหุ้นส่วนพัฒนาจังหวัดภาคเหนือด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์” ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซต์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะวุฒิอาสาธนาคารสมองและภาคประชาสังคมจังหวัดลำพูน และจังหวัดพะเยา ในการใช้งานแพลตฟอร์ม Thailand Integrated Social Ecosystem Platform (TISEP) ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาประเด็นขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มเปราะบางโดยมีภาคประชาสังคมเป็นหุ้นส่วนพัฒนากับภาครัฐ ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมภาคประชาสังคม (สสป.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รวมผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คน
ในโอกาสนี้ นางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเลขาธิการมูลนิธิพัฒนาไท กล่าวเปิดการประชุม และชี้ให้เห็นจุดประสงค์ของการพัฒนาแพลตฟอร์ม TISEP ให้เป็นฐานข้อมูลกลางสำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์และสนับสนุนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ โดยรวบรวมและแสดงข้อมูลสถานการณ์การพัฒนาตั้งแต่ระดับจังหวัด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด รายได้ต่อหัวของประชากร โครงสร้างประชากร โครงสร้างเศรษฐกิจในจังหวัด จำนวนคนจน เส้นความยากจน รวมทั้งสถานการณ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัดผ่านดัชนีความก้าวหน้าของคน (HAI) ระดับอำเภอ ประกอบด้วย ข้อมูลตัวชี้วัดที่สะท้อนความเข้มแข็งของชุมชน โดยพิจารณาจากทุนและกระบวนการพัฒนา รวมถึงผลลัพธ์การพัฒนาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และระดับตำบล เป็นข้อมูลการรวมกลุ่มและการขับเคลื่อนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) ในพื้นที่ อาทิ กองทุนสวัสดิการชุมชน โครงการบ้านมั่นคง พื้นที่สุขภาวะ และกลไกการพัฒนาอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้เห็นทั้งศักยภาพ จุดแข็ง และช่องว่างของการพัฒนาในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน จากข้อมูลดังกล่าว สามารถวิเคราะห์โดยใช้กรอบคิดแบบ 5W1H เพื่อหาประเด็นหลักที่ต้องการขับเคลื่อนของวุฒิอาสาฯ และเครือข่ายภาคประชาสังคมแต่ละจังหวัด ในลักษณะของการแก้ปัญหาหรือพัฒนาต่อยอดจากทุนการขับเคลื่อนที่มีอยู่ในพื้นที่ บนฐานของการวิเคราะห์ข้อมูล ก่อนนำมาจัดทำข้อเสนอโครงการของภาคประชาสังคมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ในส่วนที่เป็นช่องว่าง (gap) ของการพัฒนาซึ่งจะเป็นการหนุนเสริมการทำงานของภาครัฐ และยังสอดรับกับบริบทเชิงนโยบายในระดับประเทศที่เปิดโอกาสให้ภาคประชาสังคมและภาคส่วนอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกับภาครัฐ ภายใต้ร่าง พ.ร.บ. ยกระดับการบริหารราชการให้ทันสมัย พ.ศ. …. ที่จำเป็นต้องอาศัยภาคประชาสังคมที่มีความเข้มแข็งมีศักยภาพ และมีความพร้อมในการทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างเป็นระบบ
ต่อมาเป็นการนำเสนอภาพรวมการใช้แพลตฟอร์ม TISEP ขับเคลื่อนหุ้นส่วนพัฒนาจังหวัดด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยนายวัชรพล ว่องนิยมเกษตร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ประกอบด้วยที่มา แนวคิดของแพลตฟอร์ม TISEP และข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่รวบรวมไว้ในแพลตฟอร์ม TISEP จำแนกเป็น (1) ข้อมูลสถานการณ์การพัฒนาของพื้นที่ในมิติเศรษฐกิจ สังคม และประชากร และ (2) ทุนในพื้นที่ ประกอบด้วยทุนทางสังคม ทุนทางเศรษฐกิจและการเงิน และทุนมนุษย์ โดยสามารถแสดงผลเปรียบเทียบชุดข้อมูลระหว่างพื้นที่ และการประมวลผลศักยภาพของพื้นที่เป้าหมาย เพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ วางแผนการพัฒนาชุมชนและเสริมสร้างความร่วมมือแบ่งปันทรัพยากรการพัฒนาระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ โดยมีตัวอย่างขั้นตอนการนำไปใช้ ประกอบด้วย ขั้นแรก วิเคราะห์สถานการณ์และทุนในพื้นที่จากแพลตฟอร์ม ขั้นที่สอง ดึงประเด็น/ช่องว่างการพัฒนาที่สำคัญในพื้นที่ ขั้นที่สาม วิเคราะห์ปัญหาจากแนวคิด 5W1H และ ขั้นที่สี่ แนวทางการจัดทำโครงการ
จากนั้นเป็นการแบ่งกลุ่มย่อยทำกระบวนการทดลองใช้แพลตฟอร์ม TISEP วิเคราะห์ประเด็นปัญหาและจัดทำแนวคิดข้อเสนอโครงการภายใต้หลักฐานเชิงประจักษ์ด้วยกรอบ 5W1H ได้ตัวอย่างแนวคิดและข้อเสนอดังนี้ จังหวัดลำพูน ให้ความสำคัญกับข้อมูลโครงสร้างประชากรที่สะท้อนว่าสังคมสูงวัยในจังหวัดลำพูนอยู่ในระดับสุดยอด มีผู้สูงอายุ 28% ติด 10 อันดับแรกของประเทศ และมลพิษในสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ผ่านข้อมูลดัชนีชี้วัด HAI มิติด้านสุขภาพ และด้านที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม โดยมีข้อเสนอเรื่อง การช่วยเหลือผู้สูงอายุที่พิการและตกหล่นในพื้นที่ห่างไกล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่มีความพิการและกลุ่มผู้สูงอายุที่ตกหล่นจากระบบการช่วยเหลือของภาครัฐ ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ โดยดำเนินการค้นหาและระบุตัวตนกลุ่มเป้าหมายผ่านการบูรณาการข้อมูลดิจิทัลเชิงพื้นที่ควบคู่กับการลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์และบริการที่จำเป็น และพัฒนาระบบติดตามคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และการสร้างพื้นที่ต้นแบบคนอยู่กับป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและวัฒนธรรม โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม “แห่ช้างเผือก” ในพื้นที่ต้นแบบที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจัดสรรที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนฯ ให้แก่ชุมชน เพื่อสะท้อนบทบาทการร่วมจัดการทรัพยากรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ร่วมกับสร้างกลไกและระบบข้อมูลทรัพยากรในพื้นที่ ควบคู่กับการปลูกจิตสำนึก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้เห็นคุณค่าการอนุรักษ์วิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน และ จังหวัดพะเยา มุ่งแก้ปัญหาเรื่องผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง จากข้อมูลโครงสร้างประชากรที่ผู้สูงอายุและคนพิการ (ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ) มีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ข้อเสนอจึงประกอบด้วยการเสริมสร้างสุขภาวะสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุในจังหวัดพะเยา เพื่อส่งเสริมสุขภาวะด้านการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุแบบบูรณาการร่วมกับชุมชน ควบคู่กับการเสริมสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจให้ผู้สูงอายุมีความพร้อมในการตั้งรับและปรับตัวต่อสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยใช้กลไกสวัสดิการชุมชนเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็น อาทิ จัดบริการรับ-ส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล และการเตรียมความพร้อมรับมือก่อนเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ดำเนินการ และการเตรียมความพร้อมทางเศรษฐกิจให้กลุ่มเตรียมสูงวัย และผู้สูงอายุที่มีพลัง (Active Aging) เพื่อเตรียมความพร้อมทางเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มเตรียมสูงวัยและผู้สูงอายุแบบ Active โดยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและรายได้ มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายในมิติการสร้างรายได้ การบริหารจัดการหนี้สินและการส่งเสริมการออม อันจะนำไปสู่การดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความมั่นคงทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
ในตอนท้าย นางสาววรวรรณฯ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้ฐานข้อมูลจากแพลตฟอร์ม TISEP ควบคู่ไปกับฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่มีอยู่แล้วในพื้นที่จะช่วยให้การวิเคราะห์มีความชัดเจน เพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล และเสริมความสมเหตุสมผลของข้อเสนอโครงการ อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยพิจารณาบทบาทและรูปแบบการมีส่วนร่วมของแต่ละภาคส่วนอย่างเหมาะสม และแนวทางการดำเนินงานควรมีความเชื่อมโยงในลักษณะเดียวกับ Supply chain เพื่อให้สามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ การกำหนดตัวชี้วัดเพื่อเป็นเครื่องมือในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลความก้าวหน้าและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ควรสอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินโครงการ และสามารถสะท้อนผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้จริง พร้อมทั้งควรระบุแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้เป็นตัวชี้วัดอย่างชัดเจน ทั้งนี้ คาดหวังว่าแพลตฟอร์ม TISEP จะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ข่าว/ภาพ : กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ )