Accessibility

Accessibility Options

สภาพัฒน์ร่วมกับ บพท. หารือแนวทางต่อยอดงานวิจัยสู่นโยบายแก้ไขความยากจน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา นางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หารือร่วมกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) นำโดย นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ กรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ที่ปรึกษาการขับเคลื่อนวิทยสถาน “ธัชภูมิ” เพื่อการพัฒนาพื้นที่ ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ บพท. คุณจิริกา นุตาลัย ที่ปรึกษาโครงการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับแพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับจังหวัด และ ดร.อโศก  พลบำรุง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นแนวทางต่อยอดงานวิจัยที่ บพท. ดำเนินการไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายให้บรรลุเป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม

ในช่วงแรก ผู้อำนวยการ บพท. ได้นำเสนอประเด็นสำคัญจากการดำเนินยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ของ บพท. (Area-based Strategic Program) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับโอกาสทางสังคม ได้แก่ ด้านงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ผลจากการนำร่องในพื้นที่ 20 จังหวัด พบว่าองค์ประกอบสำคัญในการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย (1) กลไกความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ (Collaborative Governance) จาก 4 ภาคส่วน คือ กลไกรัฐ (ท้องถิ่น/ท้องที่) กลไกตลาด (เอกชน/อุตสาหกรรมในพื้นที่) กลไกภาคประชาสังคม (ประชาสังคม/องค์กรชุมชน) และกลไกความรู้ (สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่) ร่วมกันบูรณาการข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา (2) การมีระบบข้อมูลชี้เป้า โดยร่วมกันค้นหา สำรวจ และสอบทานข้อมูลครัวเรือนยากจน ภายใต้ระบบข้อมูลครัวเรือนยากจนระดับจังหวัด (Practical Poverty Provincial Connext : PPPConnext) ช่วยวิเคราะห์และจำแนกกลุ่มเป้าหมายตามทุนและศักยภาพ (3) ระบบส่งต่อความช่วยเหลือ และ (4) การออกแบบโมเดลแก้จนเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างตรงเป้า อาทิ การเสริมพลังสร้างอาชีพ และการสร้างระบบสวัสดิการในพื้นที่โดยเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาระดับพื้นที่และแผนพัฒนาของจังหวัด ผลการดำเนินงานใน 20 จังหวัด จนถึงปี 2568 มีการสอบทานข้อมูลคนจนในระบบ PPPConnext 1,645,624 ราย จาก 288,837 ครัวเรือน รวมทั้งเกิดโมเดลแก้จนที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากต่อไป

ด้านการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาชุมชนและฐานทุนทางวัฒนธรรม บพท. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจระดับชุมชนให้เป็นกลไกหลักของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ ได้แก่กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP โดยต้องมีจุดคานงัดสำคัญในการพัฒนาธุรกิจชุมชน ประกอบด้วย การเข้าถึงทุน/โครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงเทคโนโลยี/นวัตกรรม การเข้าถึงตลาด และการเข้าถึงความรู้/องค์ความรู้ โดย บพท. พัฒนาระบบข้อมูลและแพลตฟอร์มการพัฒนาและยกระดับ Local Enterprises (LEs) เพื่อจับคู่องค์ความรู้ในงานวิจัยของสถาบันการศึกษาเข้ากับธุรกิจชุมชน รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดกลไกเกื้อกูล LEs อาทิ การพัฒนาหลักสูตรอบรมทักษะบริหารจัดการธุรกิจและความรู้การเงิน (Financial Literacy) แก่ผู้ประกอบการชุมชน การวิเคราะห์ข้อมูลห่วงโซ่อุปทานในพื้นที่และออกแบบห่วงโซ่คุณค่าใหม่ (New Value Chain และ Pro poor Value Chain) เพื่อสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้จัดจำหน่ายในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ผลการดำเนินงานพบว่า สามารถยกระดับรายได้ธุรกิจชุมชน รายจ่ายในการซื้อวัตถุดิบในพื้นที่ และรายจ่ายเพื่อการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมทั้งกระจายรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่น ควบคู่กับการเกิดคลัสเตอร์เป้าหมายถึง 20 คลัสเตอร์ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 ภาค

ในโอกาสนี้ รองเลขาธิการฯ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นว่า คานงัดสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำคือ การยกระดับทุนมนุษย์ โดยประเด็นข้อค้นพบที่ได้นี้สามารถนำไปสู่การวางแนวทางพัฒนาทุนมนุษย์ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 ที่กำลังอยู่ระหว่างการยกร่าง อาทิ การ Reskill/upskill การจ้างงาน การจัดสวัสดิการสังคมแบบ Productive Welfare  นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อการกำหนดกลไกขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ควรมีกลไกในรูปแบบของการทำร่วมกัน (Co-creation) ระหว่างหน่วยงานด้านนโยบายกับกลุ่มการขับเคลื่อนที่เป็นแนวรุก เพื่อผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนโดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เชิงปฏิบัติการ (Know-how) การใช้ระบบพี่เลี้ยง (Coaching)การมีระบบฐานข้อมูล และการขยายผลรูปแบบการทำงานโดยเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานไปสู่พื้นที่อื่น รวมถึงควรมีการระบุหน่วยงานเจ้าภาพดำเนินการ และการกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงานระดับพื้นที่ (Area-based) ให้ชัดเจนต่อไป

ข่าว/ภาพ : กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม