เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยกองยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง (กพม.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 4 เรื่อง “เทคนิควิธีการถอดบทเรียน เพื่อประยุกต์ใช้ในการติดตามและประเมินผล การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) กรณีเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” ภายใต้ค่าใช้จ่ายการติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาพื้นที่และ เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมสิปปนนท์ สศช. โดยมีนางสาวชณกช ชสิธภนญ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่ (1) ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (2) นางสาวภาสินี พานิชฝ่ายส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และ (3) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พิมลพรรณ อิศรภักดี ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากกองและสำนักต่างๆ ใน สศช. จำนวน 25 คน รวมทั้งผู้เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้มี วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจของบุคลากร สศช. เกี่ยวกับนิยามและกระบวนการสนับสนุนเมืองอัจฉริยะ ตัวชี้วัดและหลักเกณฑ์สำหรับประเมินเมืองอัจฉริยะในบริบทไทย ตลอดจน เทคนิควิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากการถอดบทเรียน รวมทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมและวิทยากร โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 1) นโยบายและกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ประกอบด้วย นิยามของเมืองอัจฉริยะ กลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ประเภทของเมืองอัจฉริยะ หลักเกณฑ์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ความคืบหน้าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย และความท้าทายและข้อเสนอแนะในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 2) การจัดทำดัชนีเมืองอัจฉริยะและสถานะเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย สำหรับประเมินความสามารถเมืองอัจฉริยะปี 2566 โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ กรอบการประเมินดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ปี 2566 โดยพิจารณาจากการบรรลุเกณฑ์การประเมิน 5 ด้าน ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ (Vision) โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) แพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (City Data Platform) ระบบบริการอัจฉริยะ (Smart Solutions) และความยั่งยืน (Sustainable) ผลการประเมินขีดความสามารถเมืองอัจฉริยะประเทศไทยปี 2566 ทั้งในมิติพื้นที่ (City-based) และมิติจังหวัด (Province-based) ปรากฏว่าพื้นที่ 3 ลำดับแรกที่ได้คะแนนสูงสุดในมิติพื้นที่ (City-based) ได้แก่ (1) เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ จ. ระยอง (2) สามย่านสมาร์ตซิตี้ กรุงเทพฯ และ (3) คลองผดุงกรุงเกษม กรุงเทพฯ ส่วนในมิติจังหวัด (Province-based) ได้แก่ (1) จังหวัดภูเก็ต : ภูเก็ตเมืองอัจฉริยะ (2) จังหวัดฉะเชิงเทรา : ฉะเชิงเทรา เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน และ (3) จังหวัดขอนแก่น : ขอนแก่นเมืองอัจฉริยะ 3) หลักการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลจากการถอดบทเรียน ประกอบด้วย นิยามและกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล หน้าที่ของผู้ถอดบทเรียนในการวิเคราะห์ข้อมูล หลักการวิเคราะห์แบบอุปนัย หลักการวิเคราะห์แบบนิรนัย ขั้นตอนและกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ การจัดการข้อมูลถอดบทเรียน หลักการวิเคราะห์โดยประยุกต์ใช้ SWOT Analysis รวมทั้ง ข้อเสนอแนะและแนวทางป้องกันการเกิดปัจจัยแห่งความล้มเหลว การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่ สศช. โดยได้สร้างความเข้าใจในนโยบายและกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย พร้อมทั้ง ได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลจากการถอดบทเรียน ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ สศช. ในการติดตามและประเมินผลความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ