Accessibility

Accessibility Options

สศช. ติดตามโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาภาคสู่การปฏิบัติ

เมื่อวันที่ 11-12 ตุลาคม 2565 ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานอนุกรรมการติดตามโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลงพื้นที่ติดตามโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาภาคสู่การปฏิบัติ ณ จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสมสุข ศรีสถิตย์วัฒนา นางวัชรี สงวนศักดิ์โยธิน อนุกรรมการติดตามโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก นางสุวรรณี คำมั่น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ดร.ชัฐพล สายะพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นางสาวจินนา ตันศราวิพุธ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคกลาง (สพก.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นางสาวจิตรลดา พิศาลสุพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนยุทธศาสตร์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ สพก. สศช.

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อประชุมหารือและรับฟังผลการดำเนินงานโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในระดับพื้นที่ ได้แก่

(1) โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีแปลงใหญ่กุ้งขาว ตำบลช้างข้าม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี

(2) โครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย (CCPOT) สู่สากล ของกระทรวงวัฒนธรรม กรณีกลุ่มทอเสื่อกกสุริยาบางสระเก้า (ผลิตภัณฑ์จากเสื่อกก)ชุมชนคุณธรรมวัดบางสระเก้า หมู่ที่ 5 ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

(3) โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) กรณีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี : การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปชุมชน ภายใต้แบรนด์ เกวียนนิยม ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

โดยในการลงพื้นที่ได้มีการรายงานผลการดำเนินงานซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการ และรับทราบปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ตลอดจนมีการหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าการดำเนินโครงการมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในท้องถิ่น ทั้งการช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้ และนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรแบบผสมผสานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ การเลี้ยงกุ้งผสมผสานกับการเลี้ยงปลา และสาหร่าย การลดและเลิกการใช้สารปฏิชีวนะและสารเคมีในกระบวนการผลิตทางการเกษตร การยกระดับความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการสนับสนุนให้มีการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) การสร้างตราสินค้า (Branding) การสร้างเรื่องราวให้เล่าเรื่อง (Storytelling) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน การส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง การส่งเสริมให้เยาวชนและผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นผู้สืบสาน และสนับสนุนการผลิตสินค้าและการท่องเที่ยว การบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน และการยกระดับสู่การเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่มีแบบแผน สามารถเชื่อมโยงกับวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ และผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้ง Startup ในพื้นที่ ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันพัฒนา ต่อยอด และขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดความยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนและชุมชนได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข็มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานรากในระยะยาว