เมื่อวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ทรงคุณวุฒิและหัวหน้ากำกับการลงพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วย นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายณัฏพงศ์ สุขวิสิฏฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รศ.ดร.นิวัตร พัฒนะ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ผศ.ดร.ธัญณ์ณภัรทร์ เจริญพาณิชย์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม นายวีระ บัวจันทร์ เกษตรจังหวัดสุโขทัย นายสมพงศ์ ชมชัย นายอำเภอศรีสัชนาลัย นางอัญชลี จรัสสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อประชุมหารือและรับฟังผลการดำเนินงานโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในระดับพื้นที่ ได้แก่
(1) โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย)ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรณีโครงการเพิ่มรายได้หมุนเวียนจากวัสดุเหลือทิ้งจากแปลงกล้วยตานี ในพื้นที่ตำบลคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย(2) โครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย (CCPOT) สู่สากล ของกระทรวงวัฒนธรรม กรณีชุมชนคุณธรรมวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร เครื่องประดับสุโขโบตั๋น ในพื้นที่ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย(3) โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีแปลงใหญ่มะม่วงโชคอนันต์ ในพื้นที่ตำบลน้ำขุม อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย
โดยในการลงพื้นที่ได้มีการรายงานผลการดำเนินงานซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการ และรับทราบปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ตลอดจนมีการหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่ คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะช่วยให้ชุมชนสามารถรับมือกับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยการดำเนินโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ควรมีการวางแผนการดำเนินงานให้ครบตลอดห่วงโซ่การพัฒนา ทั้งการผลิต การแปรรูป และการตลาด อาทิ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาทักษะของเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าโดยมีงานวิจัยรองรับ รวมถึงการขยายช่องทางการตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ นอกจากนั้น ควรให้ความสำคัญกับการขยายผลโครงการ โดยการต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เกิดผลผลิตของสินค้าเพิ่มขึ้น เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานรากในระยะยาว
