รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ปี 2019 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศการจัดระดับประเทศต่างๆ ทั่วโลก 187 ประเทศ โดยประเทศไทยได้รับการจัดระดับอยู่ใน "Tier 2 ประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐาน แต่พยายามแก้ไข” เช่นเดียวกับปี 2561 จากการแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้นของไทยในการดำเนินงานที่สำคัญ จริงจัง ป้องกัน และมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาแต่ยังไม่สามารถขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่ไทยยังคงต้องพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สำคัญทั้งในด้านการดำเนินคดี ด้านการคุ้มครองและด้านการป้องกัน โดยการดำเนินงานที่สำคัญที่ประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้น อาทิ การกำหนดบทลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด การคัดแยกและส่งต่อผู้เสียหายไปยังทีมสหวิชาชีพ การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยทุกคนให้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แนวคิดการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแนวคิดจากเดิมที่มองว่าผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นต้นเหตุของปัญหา ไปสู่แนวคิดของความรับผิดชอบร่วมกัน (Shared Responsibility) ต่อความปลอดภัยบนท้องถนน โดยใช้วิธีการจัดการที่มุ่งสร้างระบบความปลอดภัยทางถนน (Safe System Approach) โดยมองปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ คน ยานพาหนะ และถนน ให้เป็นระบบแบบองค์รวม (Holistic View) และยอมรับความจริงที่ว่ามนุษย์มีข้อจำกัดด้านสมรรถนะและความเปราะบางของร่างกาย โดยหากปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องในระบบ เช่น ถนน หรือยานพาหนะ ไม่มีความบกพร่อง หรือออกแบบให้สามารถรองรับความผิดพลาดเหล่านี้ได้ จะช่วยลดอัตราการสูญเสีย หรือบรรเทาความรุนแรงลงได้
โดยมีแนวทางแก้ไขหลัก 4 ด้าน คือ (1) ผู้ใช้ถนนที่ปลอดภัย ต้องตระหนักและมีจิตสำนึกเรื่องวัฒนธรรมความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎจราจร (2) ยานพาหนะที่ปลอดภัย โดยมีขีดความสามารถในการรองรับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงในการชนและความรุนแรงต่อการบาดเจ็บของผู้ขับขี่ ผู้เดินเท้าและผู้ใช้จักรยาน (3) ถนนและสภาพข้างทางที่ปลอดภัย โดยมีการออกแบบให้มีความปลอดภัย มีการติดตั้งอุปกรณ์บนถนนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุ และ (4) การใช้ความเร็วที่ปลอดภัย ความเร็วของยานยนต์สะท้อนถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายบนท้องถนน โดยการขับรถเร็วเกินกำหนด หรือมีการใช้ความเร็วที่สูงขึ้น โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
นโยบายและการดำเนินงานความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย ที่ผ่านมาความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องสำคัญ จึงได้มีการจัดทำแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2561–2564 รวมทั้งจัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาล การออกกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ มีการดำเนินงานตามแนวทางระบบความปลอดภัยทางถนน อาทิ การรณรงค์ให้ความรู้และสร้างความตระหนัก เช่น เมาไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัย ฯลฯ การสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ใช้รถให้ใช้ความเร็วที่ปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด ผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ การกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางวิศวกรรมของรถยนต์ การจัดการให้ถนนมีความปลอดภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง การควบคุมการใช้ความเร็วของยานพาหนะให้อยู่ในอัตราที่กฎหมายกำหนด
ข้อเสนอแนะการสร้างความปลอดภัยทางถนน อุบัติเหตุทางถนนเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันและลดความสูญเสียได้ ภายใต้แนวทางระบบที่ปลอดภัย (Safe System Approach) โดยมีแนวทาง ดังนี้
1.ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนให้ได้ระดับ 3 ดาวตามแนวทางสากล โดยตรวจสอบและปรับปรุงเส้นทางถนน โดยถนนที่มีการสัญจรเดิมที่ควรมีการตรวจสอบและปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยต่อการสัญจรทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และที่คนเดิน สำหรับการสร้างถนนเส้นใหม่ควรมีการกำหนดให้การก่อสร้างได้มาตรฐานอย่างน้อยถนนระดับ 3 ดาวขึ้นไป ตามหลักเกณฑ์ของ International Road Assessment Program (iRAP)
2.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดทั้งปี มุ่งเน้นในเรื่องการใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด การดื่ม/เมาไม่ขับ การใช้อุปกรณ์ที่กฎหมายบังคับ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
3.ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนถนน โดยนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับรถ ผู้ดูแลระบบ และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ เมื่อผู้ขับมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายขณะขับขี่
4.สนับสนุนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการดำเนินการสร้างระบบความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ โดยการสำรวจถนนและปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การดูแลต้นไม้ การลดจุดอับ ตลอดจนรณรงค์และปลูกฝังจิตสำนึก เสริมสร้างพฤติกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชน
5.พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุอย่างละเอียด เป็นระบบ และเป็นเอกภาพ เพื่อให้สามารถใช้เป็นฐานข้อมูลกลางของประเทศ ที่ครอบคลุมข้อมูลในทุกมิติ
6.ผลักดันให้มีหน่วยงานหลักในการประสานงานด้านความปลอดภัยทางถนน ที่สามารถบูรณาการการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องงบประมาณ แผนงาน โครงการ การติดตามประเมินผล ตลอดจนระบบข้อมูล รวมทั้งการพัฒนากลไกการจัดการความปลอดภัยทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการลดอัตราการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
2 กันยายน 2562