ข่าวสาร/กิจกรรม
ผลการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา แพร่)
วันที่ 1 ธ.ค. 2559
เมื่อวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2559 พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา แพร่) ณ ห้องประชุมเชียงแสน ชั้น 2 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมี ดร.ปรเมธี  วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมประชุมในฐานะเลขานุการ กรอ. พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เข้าร่วมประชุม

วัตถุประสงค์การประชุมดังกล่าวคือ เพื่อประชุมหารือเรื่องการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 สรุปสาระสำคัญการประชุมได้ดังนี้
1. การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ไทย ลาว จีน ผ่านเส้นทาง R3A โดยขอให้สนับสนุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางไทย สปป.ลาว และจีน ประกอบด้วย (1) ศึกษา สำรวจ รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว (2) การพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ (3) การอบรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ มัคคุเทศก์ เขตล้านนา (4) การส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวเส้นทางเชื่อมโยง (5) การจัดทำรายงานโครงการฯ (6) การพัฒนาเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนเขตล้านนา (7) การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวฯ และ (8) การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนดอยยาว – ดอยผาหม่น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่พิจารณาในรายละเอียดเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางไทย สปป.ลาว และจีน รวมทั้งความเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Connect) ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต อาทิ เส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับประเทศกลุ่ม CLMV ทั้งนี้ให้กระทรวงคมนาคม หามาตรการคัดกรองและควบคุมรถที่ใช้เส้นทาง R3A เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้วย

2. การติดตามความคืบหน้าการพัฒนาด่านชายแดนสากลห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โดยเร่งรัดการอนุญาตให้ใช้พื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยภูคาและป่าผาแดง ต.ห้วยโก๋น จ.น่าน รวมทั้งสิ้น 819 ไร่ 75 ตารางวา ประกอบด้วย (1) ด่านศุลกากรทุ่งช้างขอใช้พื้นที่ จำนวน 214 ไร่ สำหรับโครงการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรห้วยโก๋น จ.น่าน (2) แขวงการทางน่านที่ 2 ขอใช้พื้นที่จำนวน 255 ไร่ 75 ตารางวา สำหรับก่อสร้างถนนบริเวณด่านชายแดนห้วยโก๋น เป็นทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ และ (3) การพัฒนาตลาดและเขตการค้าชายแดนขอใช้พื้นที่จำนวน 350 ไร่ สำหรับการวางผังการใช้ที่ดิน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้ ก.มหาดไทย (จ.น่าน) รับไปประสาน ก.ทรัพยากรฯ (สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่) จัดทำข้อมูลการขอใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยภูคาและป่าผาแดง เพื่อพัฒนาด่านชายแดนสากลห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่านให้ได้ข้อมูลครบถ้วน รวมทั้งเร่งรัดพิจารณาการใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติในการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ และเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติรับไปพิจารณาโดยคำนึงถึงผลกระทบทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และชุมชนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

3. การยกระดับจุดผ่อนปรนการค้า ด่านบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร โดย (1) ผลักดันการเจรจากับ สปป.ลาว เพื่อเร่งรัดดำเนินการยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวกเป็นจุดผ่านแดนถาวร และ ด่านประเพณีบ้านปางมอบ เมืองคอบ แขวงไชยะบุลี  เป็นด่านสากล และ (2) เร่งรัดหน่วยงานของไทยที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกและการบริหารจัดการบริเวณด่านพรมแดนในการเตรียมความพร้อมรองรับการยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านฮวก ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย (จ.พะเยา) กระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณรับไปประสานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช) จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้พื้นที่เพื่อก่อสร้างและขยายถนน/ก่อสร้างอาคารตรวจสอบเอกสารและพิธีการศุลกากรผ่านการควบคุมของเจ้าหน้าที่ (Customs Immigration Quarantine : CIQ ระหว่างพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตและพื้นที่ใช้สอยจริงให้ได้ข้อมูลครบถ้วน และเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ รับไปพิจารณาโดยคำนึงถึงผลกระทบทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และชุมชน ก่อนขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

4. การขอให้สนับสนุนงบประมาณในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 (Upper Northern Food Valley) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ร่วมดำเนินการ โดยให้คำนึงถึงการพัฒนาที่มีศักยภาพที่สามารถเพิ่มมูลค่าตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้กับพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมพืชเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม ตลอดจนกำหนดกลไกการบริหารจัดการในรูปแบบประชารัฐที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์เพื่อให้การดำเนินงานยั่งยืน ทั้งนี้ ให้ประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของงบประมาณที่จะขอรับการสนับสนุนเพื่อดำเนินการดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป

5. ขอให้เร่งรัดโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 103 (อ.ร้องกวาง จ.แพร่ – อ.งาว จ.ลำปาง) ได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2562 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม รับไปพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นเร่งด่วนในการเร่งรัดขยายทางหลวงหมายเลข 103 (อ.ร้องกวาง จ.แพร่ – อ.งาว จ.ลำปาง) โดยให้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยด้านการจราจร และการเชื่อมโยงการพัฒนาด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

6. ขอให้สนับสนุนโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรจังหวัดแพร่ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้ ก.มหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับ ก.เกษตรฯ ก.ทรัพยากรฯ หน่วยงานรัฐและองค์กรชุมชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาในรายละเอียดถึงความเหมาะสม ความจำเป็นเร่งด่วน ตามที่ภาคเอกชนเสนอก่อนเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอน รวมทั้งให้มีการติดตามประเมินผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการอย่างเป็นระบบ

ข่าว : สำนักพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
ภาพ : สำนักพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และคลังภาพทำเนียบรัฐบาล

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-2804085 (40 คู่สาย) แฟกซ์ : 0-2281-3938 E-mail : pr@nesdc.go.th , webmaster@nesdc.go.th
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์