|
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (CEO Visit)
กับโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ เรื่อง "การขับเคลื่อนและยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยว: ความท้าทายต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตไทย”
นางสาวนภัสชล ทองสมจิตร ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่กองยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ โดย คุณอลิสรา ศิวยาธร ประธานกรรมการบริหารโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ ในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจบริการด้านที่พักแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนและยกระดับศักยภาพการผลิตภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และแนวทางการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการธุรกิจ ณ ห้องประชุม Conference Room 2 โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ
โรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ ได้รับรางวัล Travel Sustainable Level 3 จาก Booking.com และรางวัล PATA Gold Award Winners 2023 – Sustainability & Social Responsibility จาก THE PACIFIC ASIA TRAVEL ASSOCIATION (PATA) ในปี 2566 กิจการของศิวาเทล ประกอบด้วยโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และสำนักงานให้เช่า โดยโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ เป็นบริการด้านที่พักแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) เนื่องจากผู้บริหารเห็นว่าธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรทางด้านสิ่งแวดล้อมสูง ซึ่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง ทำให้ผู้บริหารมีแนวความคิดในการปรับเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมรักษ์โลก ซึ่งปัจจุบันได้ยึดหลักความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ (Sustainable Hotel) โดยภายในศิวาเทลมีการเสิร์ฟอาหารออร์แกนิค (Organic food) จากเกษตรกรวิถีอินทรีย์ภายในประเทศไทย ซึ่งล้วนเป็นวัตถุดิบที่มาจากหลากหลายภูมิภาคและเป็นมิตรกับทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เช่น (1) ข้าวกล้องและผักปลอดสารจากไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย (2) ข้าวหอมมะลิจากเกษตรกรทัพไทย จังหวัดสุรินทร์ (3) หมูหลุมอินทรีย์จาก G-Pork Farm จังหวัดราชบุรี และ (4) ไก่อารมณ์ดีที่เลี้ยงตามธรรมชาติจากแทนคุณ ออร์แกนิคฟาร์ม จังหวัดนครปฐม เป็นต้น ประกอบกับภายในบริเวณพื้นที่ของศิวาเทลมีการปลูกพืชผักสวนครัว (สวนผักกินได้) เช่น ต้นหม่อน ต้นโหระพา ต้นไชยา ต้นกะเพรา ต้นสะระแหน่ และผักปลอดสารเคมีอื่น ๆ เป็นต้น ในด้านการบริหารจัดการของเสียได้วางเป้าหมายจัดการขยะจนเหลือศูนย์ (Zero Waste) ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้
นอกจากนี้ ศิวาเทลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังให้รักในการให้บริการ การสืบสานค่านิยมร่วมขององค์กรและการสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานและผู้บริหาร จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงานของศิวาเทลและให้พนักงานทุกแผนกได้มีส่วนร่วม อาทิ การทำบุญประจำเดือน การจัดกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ (อาบป่า) และการลงพื้นที่ศึกษาดูงานนอกสถานที่ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว สามารถยกระดับผลิตภาพของโรงแรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งศิวาเทลยังให้ความสำคัญกับการบริหารธุรกิจอย่างสมดุล เกื้อกูล และยั่งยืน โดยมีการเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรภายในประเทศนำผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ (Organic Farming) เข้ามาจำหน่ายภายในศิวาเทลทุกสุดสัปดาห์แรกของเดือน และการร่วมมือกับชุมชนและสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อลดขยะภายในชุมชน โดยการนำเศษอาหารที่เหลือมาทำเป็นปุ๋ยใช้ในการเพาะปลูกต่อไป
สำหรับความท้าทายในการประกอบธุรกิจโรงแรม ได้แก่ (1) ด้านธุรกิจ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนธุรกิจโรงแรมที่ไม่มีมาตรฐานรับรอง การบังคับใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมที่ไม่เข้มงวดและการไม่กำหนดจำนวนโรงแรมในแต่ละพื้นที่ของภาครัฐ (2) ด้านต้นทุน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนบุคลากร ค่าวัตถุดิบด้านอาหาร และค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ขณะที่ภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำยังขาดความเข้าใจลักษณะการจ่ายค่าตอบแทนพนักงานในธุรกิจโรงแรม (3) ด้านต่างประเทศ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย (4) ด้านบุคลากร เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านดิจิทัล เนื่องจากธุรกิจโรงแรมถูกมองว่าเน้นการให้บริการเป็นหลัก จึงทำให้ไม่มีหลักสูตรที่รองรับการทำธุรกิจโรงแรมในยุคดิจิทัลและปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับปฏิบัติการของธุรกิจโรงแรม และ (5) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยวถูกทำลาย การขาดแคลนวัตถุดิบอาหาร และการปนเปื้อนของสารเคมีในวัตถุดิบอาหาร
ด้านโอกาสของธุรกิจโรงแรมที่เน้นความยั่งยืนในอนาคต จากแบบสำรวจของแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว (Booking.com) พบว่า ประชากรในช่วงอายุ 18 - 34 ปี ตระหนักและให้ความสำคัญกับโรงแรมที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และประชากรที่อายุมากกว่า 54 ขึ้นไปจะให้ความสำคัญกับคุณค่าทางสังคม โดยสัดส่วนร้อยละ 43 ระบุว่ายินดีจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับโรงแรมที่เน้นเรื่องความยั่งยืน และร้อยละ 70 ระบุว่าตัวเลือกของโรงแรมที่เน้นเรื่องความยั่งยืนยังมีน้อยเกินไป
โดยแนวทางการปรับตัวและยกระดับธุรกิจของโรงแรมศิวาเทล กรุงเทพฯ ในปัจจุบันจะเน้นสร้างการรับรู้และความตระหนักแก่ผู้บริโภคหรือผู้ที่เข้ามาพักในเรื่องของความใส่ใจต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างการรับรู้เรื่องโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) และยังยกระดับไปสู่การเป็นโรงแรมรักษ์โลกที่ตอบโจทย์เรื่องของความยั่งยืน (Sustainable Hotel) ที่สัมผัสได้จากการพักแรม ผ่านแพลตฟอร์มการจองที่พักแรมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น Booking.com สำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ในอนาคต โดยธุรกิจโรงแรมได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจากการที่เป็นผู้ใช้ทรัพยากรจำนวนมากในแต่ละปี ผ่านการทำประโยชน์คืนให้แก่สังคม โดยมีการสร้างเครือข่ายในกลุ่มโรงแรม และกลุ่มผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ (Supplier) ให้แก่โรงแรม ร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคมและชุมชนท้องถิ่นควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนไปพร้อมกัน
ภาพ/ข่าว: กองยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค |
