ข่าวสาร/กิจกรรม
|
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ครั้งที่ 1/2567
วันที่ 28 มี.ค. 2567
|
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ณ ห้องประชุม 521 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประตูการค้าที่สำคัญและศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) ตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้ โดยให้ความสำคัญกับการขนส่งทางรางให้เป็นโครงการข่ายหลักในการขนส่งสินค้า รวมถึงใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่โดยเฉพาะท่าเรือโดยการส่งเสริมให้เป็นท่าเรือถ่ายลำ (Transshipment Port) และการผลักดันการใช้งานระบบ National Single Window (NSW) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขนส่งในการนำเข้า ส่งออก และนำผ่านสินค้า และสามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศลงได้ โดยที่ประชุมมีมติ ดังนี้
1. ให้มีคณะทำงานปรับปรุงกระบวนการให้บริการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานคณะทำงาน และหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงานในการเร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางรถไฟและท่าเทียบเรือชายฝั่งเข้าท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงพิจารณาในรายละเอียดของกระบวนการขนส่งในขั้นตอนต่างๆ เพื่อจัดทำ Transshipment Sandbox เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้กระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้าต่างประเทศ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดรายการสินค้าข้าวและสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดทำมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ การรั่วไหลของสินค้า นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมวิชาการเกษตร) พิจารณาปรับปรุงขั้นตอนการขออนุญาตนำสินค้าผ่านราชอาณาจักรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขนส่งและส่งเสริมกิจกรรมการถ่ายลำทางเรือในประเทศไทยได้มากขึ้น
2. รับทราบสถานะการใช้งานระบบ NSW ที่ปัจจุบันมีธุรกรรมที่ให้บริการผ่านระบบ NSW แล้วคิดเป็นร้อยละ 99.36 ของกระบวนงานทั้งหมดในการนำเข้าและส่งออก คาดว่าจะสามารถใช้งานกระบวนงานทั้งหมดได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงรับทราบสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP โดยในปี 2565 ที่ร้อยละ 13.7 ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 13.9 และการยกเลิกการบังคับให้เรือชายฝั่งที่รับตู้สินค้าขาเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังต้องบรรทุกตู้สินค้าลงเรือที่ท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) เท่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขนส่งเรือชายฝั่งที่สามารถรับตู้สินค้าได้ที่ท่าเทียบเรืออื่น ๆ ภายในท่าเรือแหลมฉบัง
3. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการ กบส. ประกอบด้วย การดำเนินงานรองรับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟจีนและ สปป.ลาว การเปิดให้เอกชนดำเนินการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการจัดหาผู้บริหารท่าเรือที่ยังไม่ใช้ประโยชน์ ได้แก่ ท่าเรือศาลาลอย จ. พระนครศรีอยุธยา และท่าเรือคลองใหญ่ จ.ตราด โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ข่าว : กองยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์
ภาพ : จักรพงศ์ สวภาพมงคล
|