สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเวที "ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประชากร ภายใต้ทิศทางการพัฒนาของแผนฯ 13” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 แผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว และแผนพัฒนาภาคใต้ รวมทั้งระดมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนการพัฒนาในระดับพื้นที่ และเป็นการสร้างภาคีเครือข่ายในการประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกับภาคีเครือข่ายการพัฒนาฯ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา วุฒิอาสาธนาคารสมอง และชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการแปลงแผนการพัฒนาไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 สศช. ได้เปิดเวทีนำเสนอและระดมความคิดเห็นการขับเคลื่อนงานพัฒนาในระดับพื้นที่ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 แผนพัฒนาประชากรฯ และแผนพัฒนาภาคใต้ ไปสู่การสร้างเสริมความเข้มแข็งของประชากรในภาคใต้ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ที่นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของภาคใต้ ณ โรงแรม ไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้รับเกียรติจากนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับ และมีการนำเสนอวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของภาคใต้ คือ มโนราห์ โดยเด็กและเยาวชนจากศูนย์สืบสานมโนราห์ปักษ์ใต้บ้านปากลัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จากนั้นนางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำเสนอ "แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) แผนพัฒนาประชากรฯ (พ.ศ. 2565–2580) และประเด็นการขับเคลื่อนด้านประชากรที่สำคัญในภาคใต้” และนายโสภณ แท่งเพ็ชร์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำเสนอ "เป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคใต้” โดยผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยราชการส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจเอกชน เครือข่ายภาคประชาสังคมและชุมชน ประมาณ 100 คน
โดยแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีมิติการพัฒนา 4 มิติ ประกอบด้วย (1) มิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย ประกอบด้วย หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน หมุดหมายที่ 3 ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 5 ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค หมุดหมายที่ 6 ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรมดิจิทัลของอาเซียน (2) มิติโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบด้วย หมุดหมายที่ 7 ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และสามารถแข่งขันได้ หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ เหมาะสม (3) มิติความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย หมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ (4) มิติปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ ประกอบด้วย หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต และหมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน
สำหรับแผนพัฒนาประชากรฯ เป็นแผนระดับ 3 ที่ถ่ายระดับจากแผนฯ 13 มีกรอบแนวทางการพัฒนาประชากรที่ให้ความสำคัญกับ "การเกิดดี อยู่ดี และแก่ดี” ผ่านยุทธศาสตร์การพัฒนา 6 ด้าน คือ (1) การสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพและพัฒนาระบบที่เอื้อต่อการมีและเลี้ยงบุตร (2) การพัฒนายกระดับผลิตภาพประชากร (3) การยกระดับความมั่นคงทางการเงิน (4) การสร้างเสริมสุขภาวะเพื่อลดการตายก่อนวัยอันควร และมีระบบดูแลระยะยาวและช่วงท้ายชีวิต (5) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต อย่างมีคุณภาพกับทุกกลุ่มวัย และ (6) การบริหารจัดการด้านการย้ายถิ่น
ขณะที่แนวทางการพัฒนาภาคใต้ ประกอบด้วย การพัฒนาภาคใต้ และการพัฒนาภาคใต้ชายแดน พ.ศ. 2566 – 2570 โดยเป้าหมายการพัฒนาภาคใต้มุ่งสู่การเป็น "แหล่งท่องเที่ยวและบริการที่มีคุณภาพ แหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค” โดยให้ความสำคัญกับประเด็นการพัฒนาใน 6 มิติ (PEARL) ได้แก่ (1) การยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย และมีมูลค่าสูง (2) การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐานการผลิตสำหรับสาขาเศรษฐกิจสำคัญของภาค (3) การส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (4) การส่งเสริมการใช้งานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการแปรรูปสินค้าเกษตรหลักของภาคเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (5) การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้และเขตพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งในและนอกภูมิภาค และ (6) การเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนเป้าหมายการพัฒนาภาคใต้ชายแดน มุ่งสู่การเป็น "ฐานเศรษฐกิจชายแดนที่มั่นคงบนสังคมพหุวัฒนธรรม” โดยให้ความสำคัญกับประเด็นการพัฒนาใน 5 มิติ (PEACE) ได้แก่ (1) การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน (2) การพัฒนาเมืองเศรษฐกิจชายแดน เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน (3) ใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และสังคมพหุวัฒนธรรมในการพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นสินค้ามูลค่าสูง (4) การพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม และ (5) พัฒนาการท่องเที่ยวเมืองชายแดน เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมบริเวณพื้นที่ตอนในของภาค
นอกจากนี้ ยังนำเสนอตัวอย่างการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ สู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ของผู้แทนภาคีเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ "ศูนย์สืบสานมโนราห์ปักษ์ใต้บ้านปากลัด” โดย คุณชานนท์ ปรีชาชาญ คณะทำงานเครือข่ายเพื่อนเยาวชน จังหวัดสุราษฎร์ธานี "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุมชน” โดย คุณกรวิชญ์ มาระเสนา ที่ปรึกษา Young Smart Farmer ภาคใต้ คนเขาแก้วร่วมสร้าง "เมืองแห่งความสุข” โดย คุณสาโรจน์ สินธู ผู้จัดการสถาบันการเงินบ้านหนองอ่าง ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช และการนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ Zoom Meeting "การพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนจังหวัดชายแดนใต้” โดย คุณวรรณกนก เปาะอิแตดาโอะ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งมีผู้แทนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน สำนักงานภาคใต้ เป็นผู้ดำเนินรายการ
หลังจากนั้น เป็นการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นประเด็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญในภาคใต้ใน 4 ประเด็นหลัก คือ (1) การสร้างการมีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพการศึกษา (2) การส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มผลิตภาพในภาคการเกษตร (3) การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน และ (4) การพัฒนาทักษะแรงงานและการเพิ่มรายได้ผู้สูงอายุ โดยใช้กระบวนการ 5W1H คือ What? Who? Where? When? Why? How? มีผู้แทนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เป็นวิทยากรกระบวนการ และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเป็นทีมสรุปประเด็นร่วมกับทีมของ สศช.
สำหรับผลการระดมความคิดเห็นในแต่ละประเด็นสามารถกำหนดประเด็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญในการร่วมขับเคลื่อนต่อไป ประกอบด้วย การยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยเน้นที่การสร้างสภาพแวดล้อมในระบบการศึกษาและการเรียนรู้ที่มุ่งสู่ความสุขสำหรับเด็กและเยาวชน (ทั้งเด็กในระบบและนอกระบบ) อาทิ การยกเลิกระบบการแข่งขัน การมีหลักสูตรรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว การสร้างทักษะชีวิตและทักษะด้านอาชีพ การให้ชุมชนมีส่วนร่วมและความเป็นเจ้าในระบบการศึกษา ปฏิรูปการผลิตบุคลากรทางการศึกษา การยกระดับผลิตภาพในภาคการเกษตร โดยเน้นที่การสร้างพื้นที่ต้นแบบ/ศูนย์การเรียนรู้ให้เป็นพื้นที่กลางในชุมชนเพื่อยกระดับศักยภาพและผลิตภาพของเกษตรกร รวมทั้งการสนับสนุนปัจจัยหรือเครื่องมือการผลิตที่จำเป็น มีมาตรฐาน และใช้งานง่าย อาทิ เครื่องมือวัดค่าดิน และค่าวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันในปาล์ม การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน เน้นที่การให้ความรู้ควบคู่กับการสร้างวินัยทางการเงินในครัวเรือน ฟื้นฟูและพัฒนาองค์กรการเงินในชุมชน ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการชุมชน การพัฒนาทักษะและเพิ่มรายได้ผู้สูงอายุ เสนอให้มีการยกระดับการดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้เป็นศูนย์ช่วยเหลือทางสังคมในทุกมิติได้อย่างแท้จริง ทั้งเรื่องรายได้ ข้อมูล อาชีพ สุขภาพ ฯลฯ รวมถึงเน้นที่การค้นหาศักยภาพและการสร้างเครือข่ายกิจกรรม
ทั้งนี้ ประเด็นที่ได้มาจากการวิเคราะห์สถานการณ์และแนวทางการพัฒนาตามแผนพัฒนาประชากรระยะยาว รวมถึงผลการระดมความคิดเห็นที่ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายในพื้นที่จะมีบทบาทสำคัญในการนำไปสู่การขับเคลื่อนแผนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ข่าว : กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม
ภาพ : อมรเทพ ศรีประเสริฐ |