เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เยี่ยมชมและศึกษาดูงานคูโบต้าฟาร์ม "ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของคูโบต้าในภูมิภาคอาเซียน" เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการเกษตรในโครงการ "Kubota Farm" โดยบริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีคุณทาคาโนบุ อะซึมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จํากัด และนางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าฯ ให้การต้อนรับ ณ อาคารเกษตรชัยพัฒน์ คูโบต้าฟาร์ม ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
นางวราภรณ์ กล่าวว่า การพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาประเทศ สยามคูโบต้าจึงได้จัดตั้งคูโบต้าฟาร์มเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ที่แม่นยำมีประสิทธิภาพ โดยได้น้อมนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการดำรงชีวิตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นแนวทางสร้างโซนเกษตรทฤษฎีใหม่ ในการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้า และนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนารูปแบบการเกษตรสมัยใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและภาคเกษตรกรรมของไทย
ภายหลังการกล่าวต้อนรับ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. ได้เยี่ยมชมกิจกรรม KUBOTA FARM Tour ซึ่งประกอบด้วย 1. โซนเกษตรแม่นยำข้าวและพืชหลังนา (Precision Rice Farm and Crop Rotation Zone) เป็นการนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำเกษตรมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนในการเพาะปลูกข้าว และสร้างรายได้เสริมด้วยการเพาะปลูกพืชหลังนาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 2. โซนเกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture Zone) และแนวคิดโคกหนองนาโมเดล เป็นการจำลองพื้นที่การเพาะปลูกที่น้อมนำแนวพระราชดำริในการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้าและนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนารูปแบบการเกษตรสมัยใหม่เพื่อให้เกิดรายได้ตลอดปี 3. โซนยางพารา และปาล์มน้ำมัน (Para Rubber and Oil Palm Zone) เป็นการนำเสนอรูปแบบการเพาะปลูกเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้า 4. โซนระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Construction Zone) การใช้งานรถขุดคูโบต้าเพื่อใช้งานทางด้านการเกษตร และสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก่อให้เกิดการใช้งานเครื่องจักรกล อย่างคุ้มค่า สร้างรายได้เสริมระหว่างฤดูกาล และ 5. โซนเกษตรสมัยใหม่พืชไร่ (Modern Field Crop Farm Zone) แสดงรูปแบบการเพาะปลูกอ้อยและมันสำปะหลังด้วยเครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจรในทุกขั้นตอน เทคนิคการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ตลอดจนแนะนำวิธีการและนวัตกรรมเกษตรต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อลดการเผาหลังจากเก็บเกี่ยว ซึ่งการเพาะปลูกภายใน KUBOTA Farm ได้นำ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร หรือ KAS การจัดการเกษตรกรรมครบวงจรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้ามาประยุกต์ใช้
จากนั้น เป็นการประชุมหารือเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการพัฒนา Smart Farming แนวทางบริหารจัดการแปลงใหญ่จากมุมมองของเอกชน และแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย โดยบริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ด้วยแนวทางการพัฒนาภาคการเกษตร ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ผ่าน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1. เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป เช่น ยกระดับรายได้เกษตรกร พัฒนาการใช้พื้นที่ทำเกษตรอย่างเหมาะสม 2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาคเกษตร เช่น พัฒนาการจัดการน้ำเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและน้ำท่วม และพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร และ 3. พัฒนาศักยภาพและบทบาทของผู้ประกอบการเกษตร เช่น การสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน
ทั้งนี้ คูโบต้าฟาร์ม เป็นฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของคูโบต้าในภูมิภาคอาเซียน บนเนื้อที่มากกว่า 220 ไร่ โดยใช้นวัตกรรมเกษตรครบวงจรเพื่อยกระดับให้เป็น เกษตรแม่นยำที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและให้ผลลัพธ์คุ้มค่า รวมถึงบริหารจัดการรายได้อย่างยั่งยืนเพื่อนำพาภูมิภาคอาเซียนไปสู่เกษตรยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ
สำหรับคณะผู้บริหาร สศช. ที่ร่วมศึกษาดูงานในครั้งนี้ อาทิ นายวิโรจน์ นรารักษ์ รองเลขาธิการฯ นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการฯ นางธิดา พัทธธรรม รองเลขาธิการฯ และนายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน
ข่าว/ภาพ : เมฐติญา วงษ์ภักดี |