การขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงาน กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1
(เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562
ระหว่างวันที่ 5 – 9 มิถุนายน 2567
ณ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือ
เมื่อวันที่ 5 – 9 มิถุนายน 2567 นายวิโรจน์ นรารักษ์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วย นายอธิพงศ์ หิรัญเรืองโชค ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และประสานการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน นายไพศาล จตุรพิธพร ผู้อำนวยการกลุ่มประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.กลาง) ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือ เพื่อขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงาน กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ได้มีมติเห็นชอบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้แทนเกษตรกรเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สู่การปฏิบัติ
จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ (นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด) กรอ.จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยและภาคเหนือ สถานการณ์และแนวโน้มการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจ ทั้งชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และประเทศอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนได้ นอกจากนี้ได้นำเสนอข้อมูลเรื่องการจัดเตรียมข้อเสนอนโยบาย แผนงาน และโครงการของส่วนราชการและภาคเอกชน กรณีมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน (นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา) และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้ (1) การเร่งรัดดำเนินการเพิกถอนเส้นทางในการก่อสร้างถนนเพื่อการคมนาคมและการค้าระหว่างประเทศไปยังจุดผ่อนปรนบ้านห้วยต้นนุ่น อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และประเด็นชี้แจงเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ จำนวน 10 รายการที่ยังไม่ครบถ้วนให้แล้วเสร็จ และ (2) การจัดสวัสดิการด้านการสาธารณสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารให้เกิดความเท่าเทียมกัน เช่น บริการการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency physician) บริการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่มีความจำเป็นต่อพื้นที่ จัดให้มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเท่าที่จำเป็น โดยมีความก้าวหน้าของการดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ (2.1) การจัดสวัสดิการด้านการสาธารณสุขให้กับประชาชน โดยได้ขยายและยกระดับการบริการประชาชนครอบคลุมพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และ (2.2) การสร้างมาตรการจูงใจบุคลากรทางการแพทย์ โดยการจัดสรรตำแหน่งบุคลากรด้านสาธารณสุขซึ่งพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ความสำคัญและความเร่งด่วนของพื้นที่ สำหรับค่าตอบแทนให้เป็นไปตามระเบียบค่าตอบแทนสำหรับบุคลากรสาธารณสุข นอกจากนี้ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นและข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนในระยะต่อไป เช่น การเพิ่มศักยภาพการค้าชายแดน การลดปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขด้วยมาตรการแรงจูงใจที่เหมาะสม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เป็นต้น เพื่อให้การส่งเสริมและพัฒนาในทุกมิติสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่สำรวจและศึกษาศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ และกิจการบริการด้านสุขภาพและความงามด้วยโคลนและน้ำแร่ธรรมชาติแก่นักท่องเที่ยวที่บริษัทภูโคลน คันทรี คลับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย
กลุ่มประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ
กองยุทธศาสตร์และประสานการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
มิถุนายน 2567 |
