|
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานอนุกรรมการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีนายโสภณ แท่งเพ็ชร์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวรายงาน มีคณะทำงานฝ่ายการเมือง หัวหน้ากลุ่มจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ สศช. เข้าร่วมประชุมรับมอบนโยบาย
การประชุมมอบนโยบายเพื่อเตรียมการจัดทำแผนงานและโครงการภายใต้แผนปฏิบัติราชการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี ให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ยึดถือนโยบายของรัฐบาลเป็นแกนนำ โดยให้ความสำคัญกับ 4 เรื่อง ดังต่อไปนี้
1. การพัฒนาและยกระดับสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ต้องจัดทำโครงการด้านการเกษตรเพื่อยกระดับสินค้าเกษตรและเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ภาคเกษตรให้สูงขึ้น เน้นการพัฒนาแหล่งน้ำที่หนุนเสริมการเกษตรที่เป็นรูปธรรม ทำระบบกระจายน้ำ ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการลดต้นทุน เชื่อมโยงโครงข่ายการผลิตไปสู่ตลาดและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยอาหาร เพื่อให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นฐานการผลิตของประเทศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. การผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับชุมชน ต่างประเทศให้ความสนใจสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ในประเทศ สินค้าและอาหารไทยมีชื่อเสียงในระดับสากล ดังนั้นต้องนำ Soft Power มาเป็นฐานในการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและเชิงสร้างสรรค์ นำอารยธรรมอีสานมาต่อยอด ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้และเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจชุมชน
3. การพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) สิ่งสำคัญคือการยกระดับให้เป็นสินค้า Premium หรือ Product Champion ไปสู่ตลาดโลก พัฒนาบรรจุภัณฑ์และสร้างเรื่องราว (Story) ทำให้น่าสนใจ ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และ Startup ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจของประเทศ โดยนำความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และ Soft Power เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มและให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
4. การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ต้องเตรียมความพร้อมคนในการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย พร้อมรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ และดูแลสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้น มีทักษะใหม่ (New Skill) ในการทำงานมากขึ้น ต้องเตรียมคนในจังหวัดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ และ High Tech ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ อาทิ Semiconductor หรือ รถยนต์ EV นอกจากนี้ต้องให้ความสำคัญกับระบบสาธารณสุข และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ขอให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนงานโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นำความเห็นจากพื้นที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เพื่อร่วมกันพัฒนา สิ่งนี้จะสำเร็จได้ทุกท่านต้องร่วมมือกัน และขอให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ข่าวโดย สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และกองยุทธศาสตร์และประสานการพัฒนาภาค
|
