สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดเวทีสัมมนา
"แนวทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8
ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน”
ครั้งที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เป็นเสมือนก้าวที่ 2 ของการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ
ในระยะยาวตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นายเอนก มีมงคล รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการสัมมนา "แนวทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการจัดทำร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งเป็นเวทีสัมมนาระดับภาค ครั้งที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้รับเกียรติจากนางสาวธนียา นัยพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา ณ โรงแรม อวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 200 คน ได้แก่ นายชวนินทร์ วงศ์สกิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายศศิน พัฒนภิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และผู้เข้าร่วมจากภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม จากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด นอกจากนี้ นายเกรียงศักดิ์ ภูศรีโสม รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมทั้งคณะวิทยากรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ความอนุเคราะห์เป็นวิทยากรกระบวนการตลอดการสัมมนาฯ
การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และสร้างความเข้าใจในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะ โครงการ แผนงานและมาตรการขับเคลื่อนการพัฒนาภายใต้ 4 กลยุทธ์หลักประกอบด้วย
1) การสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
2) การส่งเสริมกลไกความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ประชาชน และประชาสังคมเพื่อการพัฒนาพื้นที่และเมือง
3) การสร้างความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ และดิจิทัลรองรับพื้นที่เศรษฐกิจหลักและเมือง
4) การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการพื้นที่และเมือง ตลอดจน สร้างเครือข่ายและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมในการพัฒนาพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน
ผลการสัมมนาเบื้องต้นปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากเป็นลำดับแรก รองลงมาคือกลยุทธ์ที่ 2 3 และ 4 ตามลำดับ ตัวอย่างประเด็นสำคัญ เช่น การส่งเสริมการผลิตสินค้าของท้องถิ่น ควรคำนึงถึงแผนการตลาดที่ชัดเจน การเพิ่มสมรรถนะและขอบเขตการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากกว่าบริการสาธารณะ โดยมีความคาดหวังต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความวิตกกังวลในประเด็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาที่ไม่ต่อเนื่อง เพียงพอ และเหมาะสม
สศช. จะรวบรวมและประมวลผลความเห็นพร้อมทั้งข้อเสนอแนะในที่ประชุมของภาคส่วนต่างๆ จาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับผลการจัดสัมมนาจากภาคอื่นๆ เพื่อจัดทำ "แนวทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน” เพื่อสนับสนุนการสร้างพลังร่วมในการพัฒนาประเทศไทยให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
-------------------------
กองยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
27 กุมภาพันธ์ 2566
|