สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดย กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม จัดประชุม "ติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมอง กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2” ประกอบด้วย วุฒิอาสาฯ จากจังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน และพะเยา เพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาฯ ผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมที่จะคัดเลือกไปจัดนิทรรศการในการประชุม ๒๐ ปี ธนาคารสมอง และเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 นางสาวกัญญารักษ์ ศรีทองรุ่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานการประชุม "ติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมอง กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ” (เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา) ณ โรงแรมเวียงอินทร์ จังหวัดเชียงราย โดยได้รับเกียรติจากวุฒิอาสาฯ และเครือข่าย จำนวนประมาณ 20 คน เข้าร่วมระดมความเห็น
นางสาวกัญญารักษ์ ศรีทองรุ่ง กล่าวว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และมูลนิธิพัฒนาไท (มพท.) อยู่ระหว่างการติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมองกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย ภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง) ภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา) และภาคเหนือตอนล่าง 1 (เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรวบรวมผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของวุฒิอาสาฯ เพื่อคัดเลือกไปจัดนิทรรศการในการประชุม "20 ปี ธนาคารสมอง” ในโอกาสนี้จึงขอรับฟังความเห็นต่อกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ซึ่ง สศช. มีหน้าที่สนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาฯ ดังกล่าว และขณะนี้ได้เริ่มกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพื่อให้สามารถประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดระดมความเห็นต่อกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ใน 18 กลุ่มจังหวัด และกลุ่มเฉพาะต่าง ๆ ดังนั้น จึงขอรับฟังความเห็นจากวุฒิอาสาฯ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13
จากนั้น นายวิชญ์พิพล ติวะตันสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม นำเสนอ "ร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13” โดยกำหนดแนวทางและหมุดหมายการพัฒนาให้ตอบสนองกับบริบทการพัฒนาที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 ของยุทธศาสตร์ชาติ มีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมประเทศไทย "สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน” โดยมีปัจจัยสนับสนุนใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมแห่งโอกาสและความเสมอภาค ด้านวิถีชีวิตที่ยั่งยืน และปัจจัยสนับสนุนการพลิกโฉมประเทศ
ที่ประชุมได้ขอความเห็นจากวุฒิอาสาฯ พร้อมทั้งแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนให้แผนพัฒนาฯ บรรลุผลในระดับพื้นที่ โดยวุฒิอาสาฯ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ให้ความสำคัญกับปัจจัยการพลิกโฉมประเทศไทยด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากที่สุด เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต และพัฒนาภาครัฐให้มีสมรรถนะสูง ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาในมิติด้านการใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบการศึกษาและการพัฒนาทุนมนุษย์ ส่งเสริมการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขกฎ/ระเบียบที่ล้าสมัยและไม่เอื้อต่อการพัฒนา เพื่อให้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ สามารถแปลงไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมบนฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ในการระดมความคิดเห็นผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อประกอบการจัดนิทรรศการในการประชุม ๒๐ ปี ธนาคารสมอง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นั้น วุฒิอาสาฯ ได้เสนอผลการดำเนินงานที่วุฒิอาสาฯ เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนการดำเนินงานจนประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การพัฒนาสมุนไพรไทย เพื่อแสดงศักยภาพของคนไทยในการพัฒนาสมุนไพรไทยตลอดห่วงโซ่มูลค่า ที่เริ่มมาจากสมุนไพรจากการเกษตร และนำมาวิจัย/พัฒนา ตลอดจนการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แพทย์แผนไทย การดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะโรงเรียนผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีอยู่ทุกจังหวัด ๆ ละหลายแห่ง และการเผยแพร่องค์ความรู้ทางสถานีวิทยุ ซึ่งวุฒิอาสาฯ หลายจังหวัดได้จัดรายการให้ความรู้ด้านต่าง ๆ แก่ประชาชน โดยรูปแบบการนำเสนอ ให้ยึดการนำเสนอในรูปแบบล้านนา เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ และเสนอให้มีการจัดการแสดงด้านวัฒนธรรม ดนตรีพื้นเมืองในการประชุม เป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานของวุฒิอาสาฯ ในรูปแบบนิทรรศการแบบมีชีวิต
ข่าว : สุพัฒนา ทองสุนทร
ภาพ : ธีรันดร โชติวรรณ
|