ข่าวสาร
ข่าวสาร/กิจกรรม
วุฒิอาสาธนาคารสมองกลุ่มภาคเหนือตอนบนร่วมระดมความเห็นต่อกรอบแผนฯ 13
วันที่ 4 มี.ค. 2564 (จำนวนผู้เข้าชม  83)
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดย กองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม จัดประชุม "ติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมองกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1” เพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาฯ และเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13  

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 นางสาวกัญญารักษ์  ศรีทองรุ่ง  ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานการประชุม "ติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมองกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 ” ประกอบด้วยวุฒิอาสาฯ จากจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน และลำปาง ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากวุฒิอาสาฯ และเครือข่าย จำนวนประมาณ 40 คน เข้าร่วมระดมความเห็น

นางสาวกัญญารักษ์  ศรีทองรุ่ง กล่าวว่า ในระหว่างช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2564 นี้ มูลนิธิพัฒนาไท (มพท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างติดตามการขับเคลื่อนงานของวุฒิอาสาธนาคารสมองกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย ภาคเหนือตอนบน 1 ภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา) และภาคเหนือตอนล่าง 1 (เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรวบรวมผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของวุฒิอาสาฯ ประกอบการจัดนิทรรศการในการประชุม "20 ปี ธนาคารสมอง” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในปีนี้ 

ในโอกาสนี้ จึงขอรับฟังความเห็นของวุฒิอาสาฯ ต่อร่างกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพื่อให้สามารถประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2565  โดย สศช. ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดทิศทางและแนวทางการพัฒนาของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ความเห็นจากวุฒิอาสาฯ ในประเด็นการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายการพัฒนาครั้งนี้ จะนำมาประมวลในการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ต่อไป 

จากนั้น นายวิชญ์พิพล  ติวะตันสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม นำเสนอ "ร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13” โดยกำหนดแนวทางและหมุดหมายการพัฒนาให้ตอบสนองกับบริบทการพัฒนาที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ 6 ถึงปีที่ 10 ของยุทธศาสตร์ชาติ สรุปได้ดังนี้ 

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 มีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมประเทศไทย "สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน” โดยการเปลี่ยนผ่านประเทศ หรือการ transform ประเทศใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 
Ø   การเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจฐานทรัพยากร ไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและองค์ความรู้ หรือการมุ่งสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูง บนพื้นฐานของการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากการพัฒนา ต่อยอด และใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ 
Ø   การเปลี่ยนผ่านจากสังคมที่มีเพียงบางกลุ่มที่เข้าถึงโอกาสไปสู่สังคมที่มีโอกาสสำหรับทุกคนและทุกพื้นที่ หรือการสร้างสังคมแห่งโอกาสและความเสมอภาค โดยทุกกลุ่มคนมีโอกาสในการเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มศักยภาพ ได้รับความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ มีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค และประเทศมีความเหลื่อมล้ำลดลง ทั้งในเชิงธุรกิจ พื้นที่ รายได้ และความมั่งคั่ง 
Ø   การเปลี่ยนผ่านจากการผลิตและการบริโภคที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไปสู่วิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัย หรือการเสริมสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน โดยทุกภาคส่วนในสังคมมีรูปแบบการดำเนินชีวิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เอื้อให้เกิดความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสามารถรับมือและมีภูมิคุ้มกันจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป 
Ø   การเปลี่ยนผ่านจากกำลังคนทักษะต่ำและภาครัฐที่ล้าสมัย ไปสู่กำลังคนและภาครัฐที่มีสมรรถนะสูง เพื่อเอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การเป็นเศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน
โดยกำหนด "หมุดหมาย” ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ ‘เป็น’ มุ่งหวังจะ ‘มี’ หรือต้องการจะ ‘ขจัด’ ในช่วงระยะเวลา 5 ปีของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพื่อให้การขับเคลื่อนเป้าหมายการพลิกโฉมประเทศสู่การเป็น เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน ไปสู่การปฏิบัติมีทิศทางที่ชัดเจนและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม จำนวน 13 หมุดหมาย ได้แก่ (1) ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปมูลค่าสูง (2) ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน(3) ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน (4) ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง (5) ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและจุดยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค (6) ไทยเป็นฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและบริการดิจิทัลของอาเซียน (7) มุ่งลดความเหลื่อมล้ำระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และ SMEs (8) มุ่งลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่ (9) มุ่งเพิ่มพลวัตการเลื่อนชั้นทางสังคมและลดความเหลื่อมล้ำเชิงรายได้และความมั่งคั่ง (10) ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ (11) ไทยสามารถปรับตัวและลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ (12) ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต และ (13) ไทยมีภาครัฐที่มีสมรรถนะสูง

วุฒิอาสาฯ ได้ร่วมกันเสนอแนวทางการพัฒนาฯ ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนให้แผนพัฒนาฯ บรรลุผลในระดับพื้นที่ โดยมีกลไกของวุฒิอาสาฯ และภาคีเครือข่ายการพัฒนาเป็นพลังขับเคลื่อนงานสำคัญอย่างต่อเนื่อง

สศช. ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 โดยสามารถส่งความเห็นผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ของ สศช. ได้ทางเว็บไซต์ nesdc.go.th, Facebook สภาพัฒน์, Twitter สภาพัฒน์, Line สภาพัฒน์ Update, Email : plan13@nesdc.go.th  มูลนิธิพัฒนาไท แบบสอบถามออนไลน์ และตู้ ปณ.49 ปทฝ.หลานหลวง กรุงเทพฯ 10102

ข่าว : โชโนรส  มูลสภา
ภาพ : ธีรันดร  โชติวรรณ

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-2804085 (40 คู่สาย) แฟกซ์ : 0-2281-3938 E-mail : pr@nesdc.go.th , webmaster@nesdc.go.th
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์