Page 89 - พลิกประเทศไทย ก้าวไปด้วย2022
P. 89

87
                                                                        สำ�นักง�นสภ�พัฒน�ก�รเศรษฐกิจและสังคมแห่งช�ติ
                                                                              ี
                                                                            ื
                                                                                              ึ
                                        �
                                                                                           ิ
            บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาทางานเทียบเท่าเต็มเวลา  ท่จดทะเบียนในพ้นท่เศรษฐกิจใหม่เพ่มข้นอย่างต่อเนื่องรวม
                                                               ี
            (Full-time Equivalent: FTE) ต่อประชากร 10,000 คน  3,258 ราย ในปี 2560-2563 ซ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึง
                                                                                         ึ
                                                                                                ื
            เพ่มข้นตามเป้าหมายท่กาหนด โดยเพ่มจากจานวน 24 คน  ศักยภาพและความน่าสนใจในการลงทุนของพ้นท่เขตเศรษฐกิจ
                                                                                                   ี
              ิ
                 ึ
                               �
                              ี
                                                �
                                          ิ
                                                                                               ื
                                                               ิ
                                                                                               ้
                                                                                                  ่
            ต่อประชากร 10,000 คน/ปี ในปี 2561 เป็นจ�านวน 25 คน พเศษชายแดนของไทย อย่างไรกตาม พนทอตสาหกรรม
                                                                                                   ุ
                                                                                         ็
                                                                                                  ี
            ต่อประชากร 10,000 คน/ปี ในปี 2562 และในปี 2563   หลักยังต้องแก้ปัญหาด้านส่งแวดล้อม โดยพบว่า ต้งแต่ปี
                                                                                    ิ
                                                                                                        ั
                     ุ
                                                                              ี
                                                                                          ื
                                    ั
                                   ิ
                                          ั
                                                                                             ี
              ี
            มสดส่วนบคลากรด้านการวจยและพฒนาแบบ FTE ของ  2555-2563 มีค่าเฉล่ยสารเบนซีนในพ้นท่ จ.ระยอง อยู่ระหว่าง
               ั
                                                                                 ั
                                                                                                       ิ
                                   ี
                                                                                                   ี
            ภาคเอกชนต่อภาครัฐ อยู่ท่ร้อยละ 71:29 อย่างไรก็ตาม  1.8-2.6 มคก./ลบ.ม ยงสงกว่าค่ามาตรฐานทไม่เกน 1.7
                                                                                                   ่
                                                                                   ู
            เน่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วง 2 ปี  มคก./ลบ.ม
              ื
                                                 ื
                                       �
            ท่ผ่านมา ภาคเอกชนซ่งเป็นกลไกสาคัญในขับเคล่อนเศรษฐกิจ
              ี
                             ึ
                                                                                                  ื
            นวัตกรรมของประเทศส่วนใหญ่จาเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่าย      10. ความร่วมมือระหว่างประเทศเพ่อการพัฒนา
                                      �
            ด้านการวิจัยและพัฒนาลง  ดังนั้น ภายหลังผ่านพ้นจาก การพัฒนาโครงข่ายความเช่อมโยงด้านโลจิสติกส์ของไทย
                                                                                     ื
            สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภาครัฐจึงจ�าเป็น ยังตากว่าเป้าหมาย ความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
                                                                 �
                                                                 ่
                 ี
                                        ุ
                          ื
                                                 ิ
            ต้องมมาตรการหรอกลไกช่วยกระต้นและส่งเสรมภาคเอกชน (Global Competitiveness Index: GCI) ของ WEF
                                                               ึ
                                       ิ
            ให้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพ่มขึ้น และภาครัฐต้องเข้ามา ซ่งพบว่าในปี 2561 ไทยมีความสามารถในการแข่งขัน
                      �
                                                                                 ื
            มีบทบาทสาคัญในการลงทุนวิจัยและพัฒนาให้มากข้น  ด้านคุณภาพโครงสร้างพ้นฐานอยู่ในอันดับท่ 71 (จาก 140
                                                          ึ
                                                                                                ี

                                         ี
              ื
                                               ื
            เพ่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศท่ขับเคล่อนการพัฒนา  ประเทศ) ปรับตัวลดลงจากอันดับที่ 67 (จาก 137 ประเทศ)
                                                                             ี
            ด้วยองค์ความรู้ด้าน วทน.                          ในปี 2560 ขณะท่ การเป็นห่วงโซ่มูลค่าในอนุภูมิภาคและ
                                                              ภูมิภาคอาเซียนปรับตัวลดลง ความสามารถในการบริหาร

                                               ื
                                                  ี
                   9. การพัฒนาภาค เมือง และพ้นท่เศรษฐกิจ  จัดการ ณ จุดข้ามพรมแดนมีแนวโน้มลดลงข้นจากดัชนีการค้า
                                                                                                ึ
            ช่องว่างรายได้ระหว่างภาค และการกระจายรายได้ภายในภาค ระหว่างประเทศ (Trading Across Border) ในปี 2562
            มีแนวโน้มดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ภาคต่อหัว (GRP per capita)  ปรับตัวลดลงมาอยู่อันดับที่ 62 จากอันดับที่ 56 ในปี 2560
            ระหว่างภาคตะวันออก (เฉล่ยสูงสุด) และภาคตะวันออก  แต่ดีขึ้นจากอันดับ 94 ในปี 2558 การค้าชายแดนระหว่างไทย
                                    ี
                                                                                          �
            เฉียงเหนือ (เฉลี่ยต�่าสุด) มีความแตกต่างลดลงจาก 5.38 เท่า กับประเทศเพ่อนบ้านในอนุภูมิภาค สาหรับการค้าระหว่างไทย
                                                                         ื
                                                           ์
                            ี
            ในปี 2562 มาอยู่ท่ 5.0 เท่าในปี 2564 และสัมประสิทธ  กับกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน (อาเซียน 9 ประเทศ) มีมูลค่า
                                                           ิ
            การกระจายรายได้ระดับภาคปรับตัวลดลงจาก 0.453 ในปี  ลดลงเป็น 2,948 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ปี 2560 ที่เท่ากับ
                                                                                            ื
                                                                                                   ื
            2560 เป็น 0.430 ในปี 2564 นอกจากนี้ พื้นที่เศรษฐกิจใหม่ 3,428 ล้านบาท และการดาเนินงานเพ่อขับเคล่อนเป้าหมาย
                                                                                   �
                                                                        ่
                                                                       ี
                                                                  ั
                                                                        ั
                                                                       ่
            บริเวณชายแดนมีมูลค่าการลงทุนและจานวนผู้ประกอบการ การพฒนาทยงยน (SDGs) อยู่ในอันดับท่ 43 (จาก 156 ประเทศ)
                                                                          ื
                                                                                            ี
                                           �
            เพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการลงทุนในพ้นท่เศรษฐกิจพิเศษชายแดน หรือมีคะแนนเท่ากับ 74.19 คะแนนในปี 2563 โดยมีคะแนน
                                        ี
                                      ื
            เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 16,980.32 ล้านบาท ในปี 2560  เพ่มข้นจาก 69.5 ในปี 2560
                                                                ิ
                                                                  ึ
            เป็น 39,024.47 ล้านบาท ในปี 2563 จะเห็นได้ว่ามีการลงทุน    เอกสารฉบับสมบูรณ์สามารถสืบค้น
            เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่ต�่ากว่าร้อยละ 40 ต่อปี โดยสถานประกอบการ ได้ที่ เว็บไซต์ สศช.www.nesdc.go.th
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94