Accessibility

Accessibility Options

ความเป็นมาของ สศช.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “สภาพัฒน์” หรือ “สภาพัฒนาฯ” ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2493 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี โดยใช้ชื่อว่า “สภาเศรษฐกิจแห่งชาติ” มีหน้าที่เสนอความเห็น ให้คำแนะนำ และข้อชี้แจงต่อรัฐบาลในเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ

ต่อมา ปี 2502 ในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ปรับโครงสร้างการทำงานและเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ” และได้จัดทำ “แผนพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ” ฉบับแรกขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2504 และใน พ.ศ. 2515 ได้นำกระบวนการวางแผนพัฒนาสังคมมาใช้ควบคู่กับการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง จึงเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็น “สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” (สศช.)

ครั้นใน ปี 2560 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งกำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลัก ธรรมาภิบาล สำหรับใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการ จึงได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2560 ขึ้น (ปรับใหม่) เพื่อเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว

จากพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้กำหนดบทบาทภารกิจของ สศช. อีกหลายด้านที่สำคัญและมีผลกระทบต่อความจำเป็นในการปรับโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของ สศช. อย่างมาก คือ การให้ สศช. ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เพื่อรับผิดชอบงานด้านธุรการ ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและประชาชนภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล ความเห็น เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ

สศช. จึงเร่งปฏิรูปองค์กรเพื่อรองรับบทบาทใหม่ โดยมุ่งปรับกลไกบริหารงานของหน่วยงานให้สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว ปรับตัวได้เท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีลักษณะเป็นเชิงกลยุทธ์มากขึ้น โดยได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติสภาพัฒน์ฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2521 ที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521” เปลี่ยนมาเป็น “พระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561” ซึ่งภายใต้ พ.ร.บ. ใหม่นี้ มีการเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจาก “คณะกรรมการ” เป็น “สภา” โดย “สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ได้เพิ่มจำนวนองค์ประกอบของกรรมการให้มากขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงและซับซ้อนกันมากขึ้น นอกจากนี้ สภาพัฒน์ยังสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยปฏิบัติงานได้อีกหลายคณะ ได้แก่

  • คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง เพื่อสนับสนุนงานของสภาฯ ในการพิจารณาประเด็นการพัฒนาที่มีความซับซ้อนและต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • คณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่สภาฯ มอบหมาย
  • คณะกรรมการประสานการดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน
  • คณะกรรมการยกร่างแผนพัฒนาฯ ในแต่ละด้าน เพื่อทำหน้าที่ยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้านต่าง ๆ ตามกรอบที่สภาฯ กำหนด

จากการปรับรูปแบบการบริหารดังกล่าว ทำให้สภาพัฒน์มีรูปแบบคณะกรรมการที่หลากหลายมากขึ้น ประธานสภาพัฒน์สามารถเลือกใช้รูปแบบและกลไกการทำงานที่เหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนงานตามภารกิจของสภาพัฒน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพิจารณาเรื่องที่ต้องการความเร่งด่วนหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะ ก็สามารถใช้กลไกคณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง ที่มีองค์ประกอบกรรมการจำนวนไม่มาก มีความคล่องตัวในการทำงานได้

เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

เลขาธิการ สศช ลำดับที่ 17 นายดนุชา พิชยนันท์

ลำดับที่ 17 นายดนุชา พิชยนันท์

2563 – ปัจจุบัน

ประวัติการทำงาน

  • 1 ต.ค. 2563 เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • 1 ต.ค. 2559 รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นักบริหารสูง)
  • 16 ธ.ค. 2556 ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
  • 26 พ.ค 2553 ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์โครงการลงทุนภาครัฐ
    (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 9) 

ทำเนียบเลขาธิการ

ลำดับที่ 16

นายทศพร ศิริสัมพันธ์
2561-2563

นายปรเมธี วิมลศิริ

ลำดับที่ 15

นายปรเมธี วิมลศิริ
2558-2561

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ

ลำดับที่ 14

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
2553-2558

นายอำพน กิตติอำพน

ลำดับที่ 13

นายอำพน กิตติอำพน
2547-2553

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช

ลำดับที่ 12

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช
2545-2547

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม

ลำดับที่ 11

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม
2542-2545

นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม

ลำดับที่ 10

นายวิรัตน์ วัฒนศิริธรรม
2539-2542

นายสุเมธ ตันติเวชกุล

ลำดับที่ 9

นายสุเมธ ตันติเวชกุล
2537-2539

นายพิสิฏฐ ภัคเกษม

ลำดับที่ 8

นายพิสิฏฐ ภัคเกษม
2532-2537

นายเสนาะ อูนากูล

ลำดับที่ 7

นายเสนาะ อูนากูล
2523-2532

ลำดับที่ 6

นายกฤช สมบัติสิริ
2518-2523

นายเสนาะ อูนากูล

ลำดับที่ 5

นายเสนาะ อูนากูล
2516-2518

ลำดับที่ 4

นายเรณู สุวรรณสิทธิ์
2513-2516

ลำดับที่ 3

นายประหยัด บูรณศิริ
2506-2513

ลำดับที่ 2

นายฉลอง ปึงตระกูล
2499-2506

ลำดับที่ 1

นายสุนทร หงส์ลดารมภ์
2493-2499