Accessibility

Accessibility Options

การลงพื้นที่ 4 จังหวัดในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย

          เมื่อวันที่ 15 – 19 ธันวาคม 2568 นายบุญชัย ฉัตรประเทืองกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ นางสาวชมพูนุช รามัญวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาพื้นที่และเมือง นางสาวสุวรรณา พัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ นายไตร เอื้ออภิสิทธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และนางจีระพร เพาะเจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ และสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย และภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และลำพูน เพื่อติดตามสถานการณ์การพัฒนาและประเด็นสำคัญ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงฯ ภาคเหนือ และเขตฯ เชียงราย โดยได้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคีการพัฒนาในพื้นที่ เช่น จังหวัดลำปาง สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เชียงใหม่ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ เกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาทั้งในเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ การพัฒนาเมืองสร้างสรรค์จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะภายใต้แนวทางการพัฒนาระเบียงฯ ภาคเหนือ รวมทั้งติดตามการดำเนินงานโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบขนส่งสินค้าเชียงของ การดำเนินงานของด่านศุลกากรเชียงของ และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นต่อแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการค้าผ่านแดน/ข้ามแดนจังหวัดเชียงรายในระยะต่อไป ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็น ประเด็นท้าทาย และแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมายที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ระเบียงฯ ภาคเหนือ อาทิ ผู้ผลิตกาแฟที่มีเครือข่ายเกษตรที่เพาะปลูกกาแฟมาตรฐานสากลมากที่สุดในภาคเหนือ กิจการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวที่เป็นการลงทุนจากต่างชาติและได้มาตรฐานบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลที่มีการรวมกลุ่มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลของภาคเหนือ ผู้ผลิตเซรามิก ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์/ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง (Fine Dining) และเชื่อมโยงกับศิลปะสร้างสรรค์และ การท่องเที่ยว

          ทั้งนี้ ปัจจุบันระเบียงฯ ภาคเหนือ มีมูลค่าการลงทุนรวม 34,115 ล้านบาท (สะสมตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งมีการออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงฯ ถึงเดือนพฤศจิกายน 2568) ส่วนใหญ่เป็นกิจการประเภทการผลิตพลังงานไฟฟ้า กิจการผลิตหรือถนอมอาหารเครื่องดื่ม และกิจการพัฒนาซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัลหรือดิจิทัลคอนเทนต์ และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมีทุนทางวัฒนธรรมและเครือข่ายนักสร้างสรรค์ที่สามารถพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการในพื้นที่ และ มีนิคมอุตสาหกรรมลำพูนเป็นแหล่งการลงทุนและการจ้างงานที่สำคัญของภาคเหนือ รวมทั้งเขตฯ เชียงราย ที่เป็นประตูเศรษฐกิจสำคัญเชื่อมโยงลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ได้ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ซึ่งเมื่อรถไฟ ทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย (เชียงของ) ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2571 จะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในระเบียงฯ ภาคเหนือให้เพิ่มมากขึ้น

          โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ สภาพัฒน์ได้ให้ข้อมูลเชิงนโยบาย/ทิศทางของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคการผลิตและบริการในพื้นที่โดยให้ภาคเอกชนรายย่อยและชุมชนได้รับประโยชน์ จากการพัฒนา และการสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันระหว่างภาครัฐ – เอกชน – ภาควิชาการ – ชุมชน และได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังประเด็นปัญหา/อุปสรรค และประเด็นท้าทาย รวมทั้งข้อเสนอแนะในการพัฒนาระเบียงฯ ภาคเหนือ และเขตฯ เชียงราย จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อการขับเคลื่อนพัฒนาระเบียงฯ และการพัฒนาภาคเหนือในระยะต่อไป

ข่าว/ภาพ:  กองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่