เร่งยกระดับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดินหน้าอย่างบูรณาการ เน้นความต้องการจริงของพื้นที่

แถลงข่าว
การประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ครั้งที่ 4/2568
วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ Zoom Meeting)

          เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ Zoom Meeting) พร้อมด้วยอนุกรรมการที่เป็นผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และนายณฐพงศ์ วรรณรัตน์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อนุกรรมการและเลขานุการ โดยที่ประชุมมีมติสำคัญ ดังนี้
          1. เห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2566 – 2570 ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ของ 2 กลุ่มจังหวัด ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 และ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี เลย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ
          2. เห็นชอบโครงการและงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ของ 5 กลุ่มจังหวัด และ 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีโครงการและงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเบื้องต้น จำนวน 467 โครงการ วงเงิน 9,530.0253 ล้านบาท ประกอบด้วย เห็นควรสนับสนุนภายในกรอบวงเงิน จำนวน 419 โครงการ วงเงิน 6,673.7719 ล้านบาท เห็นควรสนับสนุนเกินกรอบวงเงิน จำนวน 48 โครงการ วงเงิน 2,642.2534 ล้านบาท และงบบริหารจัดการ 214.0000 ล้านบาท
          3. เห็นชอบข้อเสนอโครงการของส่วนราชการที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2566 – 2570 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 จำนวน 154 โครงการ งบประมาณ 22,616.2593 ล้านบาท
          4. รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
          นอกจากนี้ ประธานอนุกรรมการ ได้เน้นย้ำให้งบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะต้องมีการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน และเป็นส่วนเติมเต็มการดำเนินโครงการของส่วนราชการในระดับพื้นที่ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของประชาชน เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งรัฐบาลจะเร่งผลักดันนโยบายที่สามารถดำเนินการได้ทันที (Quick-Win) พร้อมทั้งวางรากฐานการพัฒนาระยะปานกลางและระยะยาว เพื่อให้การขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนต่อไป

ข่าว : สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สพอ.)
ภาพ : เมฐติญา วงษ์ภักดี