Accessibility

Accessibility Options

การประชุมรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่างกรอบ UNSDCF ฉบับปี ค.ศ. 2027–2031

          เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 คณะกรรมการอำนวยการสามฝ่าย (Tripartite Steering Committee) โดยนางสาวศศิธร พลัตถเดช รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้ร่วมเป็นประธานการประชุมรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่าด้วยกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ฉบับปี ค.ศ. 2027-2031 (Multistakeholder Consultation on the Draft Outcomes and Outputs of the UNSDCF 2027-2031) ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษาเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

          การประชุมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและรับฟังข้อคิดเห็นเชิงลึกต่อร่างกรอบความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างสหประชาชาติ ค.ศ. 2027–2031 (United Nations Sustainable Development Cooperation Framework: UNSDCF) ซึ่งจัดทำขึ้นบนหลักการครอบคลุม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และสอดคล้องกับบริบทการพัฒนาของประเทศไทย โดยร่างกรอบ UNSDCF ฉบับใหม่ประกอบด้วยผลลัพธ์หลัก (Outcome) จำนวน 3 ประการ ได้แก่ ผลลัพธ์ที่ 1 การได้รับโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม ผลลัพธ์ที่ 2 การมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ครอบคลุม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลลัพธ์ที่ 3 การมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากธรรมาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและสิทธิมนุษยชน สอดคล้องกับมิติ Peace และ Partnership

          ในการนี้ ผู้แทนสหประชาชาติประจำประเทศไทยได้นำเสนอสาระสำคัญของร่าง UNSDCF ซึ่งจะเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหประชาชาติในช่วง 5 ปีข้างหน้า พร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นผ่านการประชุมกลุ่มย่อย (Breakout Sessions) แยกตามผลลัพธ์ทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนสะท้อนข้อเสนอแนะอย่างรอบด้าน นำไปสู่การปรับปรุงร่างกรอบความร่วมมือให้ตอบโจทย์การพัฒนาของประเทศได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น โดยผลการหารือสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

          ผลลัพธ์ที่ 1 เสนอให้เพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับการเข้าถึงสวัสดิการและบริการพื้นฐานอย่างเท่าเทียมโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง โดยการคำนึงถึงการจัดสรรและใช้ประโยชน์จากทุนธรรมชาติอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนากลไกรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ ต้องการให้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการพัฒนาโดยใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน

          ผลลัพธ์ที่ 2 เสนอให้เน้นการขยายแนวคิดเรื่องระบบอาหารที่ยั่งยืน ให้ครอบคลุมมากกว่าภาคการเกษตร โดยรวมถึงการผลิต การแปรรูป และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรและบริการของผู้พิการ การพัฒนาระบบการเงินที่ยั่งยืน  รวมถึงการส่งเสริมแนวทางการพัฒนาที่อิงธรรมชาติ และการจัดการความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว

          ผลลัพธ์ที่ 3 เสนอให้มุ่งเน้นการสร้างกลไกที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในทุกระดับของกระบวนการพัฒนา พร้อมทั้งการสร้างระบบตรวจสอบและถ่วงดุลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังเสนอให้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในลักษณะบูรณาการ เพื่อให้การดำเนินงานมีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกันมากขึ้น และต้องการให้ภาครัฐสร้างความเชื่อมั่นว่าบทบาทและเสียงของประชาชนในกระบวนการกำหนดนโยบายจะมีความหมายและถูกนำไปวิเคราะห์อย่างแท้จริง

          จากการประชุมครั้งนี้ ข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะถูกนำไปประกอบการปรับปรุงร่างกรอบความร่วมมือ UNSDCF ฉบับใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง และสะท้อนถึงลำดับความสำคัญและความต้องการของประชาชน การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และวางรากฐานสำหรับการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนต่อไป

สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ที่ https://inter.nesdc.go.th/ และ https://sdgs.nesdc.go.th/

ข่าว : กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ (กปร.)
ภาพ : United Nations Thailand สหประชาชาติ ประเทศไทย