สภาพัฒน์ หารือกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ร่วมระดมความเห็นกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2571 – 2575)

หลังจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 และ 2 และกลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ในช่วงที่ผ่านมา ในเดือนเมษายน สำนักงานฯ จึงได้จัดให้มีการหารือรับฟังความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยมีประเด็นความเห็นที่สำคัญจากผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละกลุ่มจังหวัดโดยสรุป ดังนี้

 

ภาคใต้ชายแดน: เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 นางสาวจินนา ตันศราวิพุธ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยที่ประชุมฯ ให้ความสำคัญกับจุดเน้นการพัฒนาที่ครอบคลุมหลายมิติ อาทิ การแก้ปัญหาความยากจนโดยเฉพาะการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ การพัฒนาและปรับปรุงระบบการศึกษาทั้งคุณภาพของครูและโรงเรียน เพื่อต่อยอดไปสู่การพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรแบบครบวงจร ทั้งการส่งเสริมความรู้ด้านนวัตกรรม และสนับสนุนเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย การพัฒนาแพลตฟอร์มให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ให้สามารถเดินทางและขนส่งได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเสนอให้การจัดทำแผน กระตุ้นให้เกิดกระจายอำนาจสู่ภูมิภาค พร้อมทั้งให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจตามแผนที่กำหนด เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญในทุกพื้นที่อย่างแท้จริง

 

ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย: เมื่อวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 นางสาวจินนา ตันศราวิพุธ พร้อมด้วยนายสุรรัฐ เนียมกลาง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยที่ประชุมฯ ได้แสดงความคิดเห็นถึงทิศทางการพัฒนาประเทศที่ต้องให้ความสำคัญ อาทิ การมุ่งเน้นส่งเสริมการผลิตและบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกและเกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง การพัฒนาคนในทุกช่วงวัยให้สามารถรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้แข่งขันได้ในเวทีโลก การกระจายความเจริญอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตลอดจนการปฏิรูประบบราชการที่ทันสมัย โปร่งใส โดยเสนอแนะให้แผนควรมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งมุ่งเน้นการสื่อสารให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีความตระหนักรู้ มีความเข้าใจและเข้าถึงได้

 

ภาคใต้ฝั่งอันดามัน: เมื่อวันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568 นางสาวศศิธร พลัตถเดช รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวจินนา ตันศราวิพุธ และนายสุรรัฐ เนียมกลาง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง สตูล ณ โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ โดยที่ประชุมฯ เสนอจุดเน้นการพัฒนาประเทศที่สำคัญ อาทิ การสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาประเทศในทุกระดับและทุกองค์กร การปรับปรุงกฎหมายของประเทศให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน และสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภาครัฐ การส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ ให้สามารถประมวลผลและรายงานผลได้แบบทันที (Real-Time) การยกระดับการศึกษาในทุกมิติและทุกระดับ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของเยาวชนและคนรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมและสามารถปรับตัวได้อย่างเท่าทันต่อเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ นอกจากนี้ ยังได้เสนอแนะให้การจัดทำแผนมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งในการขับเคลื่อนแผนควรมีการจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

 

โดยสรุป ผู้ทรงคุณวุฒิในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ มีความเห็นว่า กรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 ควรมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างมีประสิทธิภาพให้สามารถปรับตัวและรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการยกระดับคุณภาพการศึกษาในทุกมิติและทุกระดับ โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพของครูและโรงเรียนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังควรมุ่งเน้นส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศ ตลอดจนการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ สศช. จะดำเนินการรวบรวมข้อคิดเห็นของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ เพื่อนำไปประมวลผลร่วมกับข้อคิดเห็นของกลุ่มจังหวัดอื่น ๆ และข้อมูลจากสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนกลาง รวมทั้งความคิดเห็นจากสาธารณะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และช่องทางอื่น ๆ เพื่อประกอบการยกร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 ต่อไป

 

เรื่อง: กองศึกษาและวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ (กศว.)

ภาพ: สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้

 

หมายเหตุ: ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการยกร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 ได้ที่ กองศึกษาและวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ (กศว.) โทร 02 280 4085 ต่อ 4425 หรือ srd@nesdc.go.th