Accessibility

Accessibility Options

การติดตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ ครั้งที่ 1 ภาคกลาง ณ จังหวัดสุพรรณบุรี

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานอนุกรรมการติดตามโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก และอนุกรรมการฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร นายวันชัย สุทธะนันท์ นายสมสุข ศรีสถิตย์วัฒนา นางวัชรี สงวนศักดิ์โยธิน และนายเอนก มีมงคล รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นางวีนัส นาคสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ นางสาวจินนา ตันศราวิพุธ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคกลาง นางสาวจันทวรรณ วรรธนะพงษ์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และประสานการพัฒนาภาค นางสาวสุภาวดี สิงห์รุ่งสกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนยุทธศาสตร์จังหวัด นางสาวจิตรลดา พิศาลสุพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนยุทธศาสตร์จังหวัด และเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาภาค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อประชุมหารือและรับฟังผลการดำเนินงานโครงการสำคัญระดับจังหวัดในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่

1. โครงการเมืองสมุนไพร สุพรรณบุรี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดำเนินการโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี

2. โครงการสุพรรณบุรีเมืองสมุนไพรก้าวไกลอย่างยั่งยืน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดำเนินการโดย โรงพยาบาลอู่ทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี

คณะอนุกรรมการฯ และคณะผู้ติดตามได้รับทราบผลการดำเนินงานโครงการฯ ปัจจัยแห่งความสำเร็จ และปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ตลอดจนมีการหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นร่วมกัน โดยคณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า การเพาะปลูกพืชสมุนไพรในระยะต่อไป ควรส่งเสริมการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ซึ่งจะช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต โดยในระดับต้นน้ำ ควรให้ความสำคัญในการปรับปรุงการเพาะปลูกที่ใช้เทคโนโลยีแบบ Smart Farming เพื่อให้สามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และเป็นการสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้มีเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) ซึ่งจะช่วยดึงคนรุ่นใหม่ให้กลับมาพัฒนาท้องถิ่น นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับเมืองสมุนไพร ตลอดจนส่งเสริมให้พลังสังคมในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองสมุนไพร อาทิ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัด และสถาบันการศึกษา รวมทั้งประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานโครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงพยาบาลอู่ทอง ควรศึกษาพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 เพื่อให้โรงผลิตยาสมุนไพรสามารถขึ้นทะเบียนยาได้

ภาพ/ข่าว : สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคกลาง