|
เทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง
|
|
|
|
ยุทธศักดิ์ คณาสวัสดิ์
- เศรษฐศาสตร์นอกตำรา
|
|
รถไฟความเร็วสูงหมายถึงรถไฟที่แล่นเร็วมากกว่า
200 กม./ชั่วโมง พัฒนาขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับการคมนาคมทางถนนและทางอากาศ
ทำให้การเดินทางโดยรถไฟซึ่งเดิมเสื่อมความนิยมลง แต่กลับมาได้รับความนิยมสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
|
|
ปัจจุบันการเดินทางโดยรถไฟนับว่าเสียเปรียบการเดินทางโดยรถยนต์มาก
โดยกรณีรถยนต์นั้น สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้ แต่กรณีเดินทางโดยรถไฟ
จะเกิดความไม่สะดวกต้องไปต่อรถยนต์ที่สถานี
|
|
ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันกิจการรถไฟยังต้องแข่งขันกับคู่แข่งรายใหม่
คือ สายการบินราคาประหยัด ซึ่งเก็บค่าโดยสารในราคาต่ำใกล้เคียงกับค่าโดยสารรถไฟ
จึงสามารถแย่งผู้โดยสารรถไฟจำนวนมาก
|
|
ผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นว่าหากรถไฟจะแข่งขันกับรถยนต์และเครื่องบินได้แล้ว
จะต้องมีความเร็วอย่างต่ำ 200 กม./ชั่วโมง รัฐบาลหลายประเทศจึงก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงขึ้น
แม้ว่าจะต้องลงทุนเป็นเงินสูงมากก็ตาม เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกิจการรถไฟ
|
|
สำหรับรถไฟความเร็วสูงสายแรกของโลกเกิดขึ้นเมื่อ
40 ปีที่แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า รถไฟชินกันเซ็น สาย Tokaido
Shinkansen เชื่อมต่อระหว่างกรุงโตเกียวและนครโอซากา ระยะทาง 553
กม. เปิดดำเนินการเมื่อเดือนตุลาคม 2507 เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวในปีนั้นเอง
|
|
ต่อมาในปี 2518 ญี่ปุ่นมีรถไฟรุ่นใหม่ที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น
220 กม./ชั่วโมง และเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรถไฟรุ่นโนโซมิซิรีส์
300 ได้เพิ่มความเร็วเป็น 270 กม./ชั่วโมง สำหรับรถไฟรุ่นใหม่ คือ
โนโซมิซิรีส์ 700 ได้เพิ่มความเร็วขึ้นอีกเป็น 300 กม./ชั่วโมง
|
|
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงกว้างขวางที่สุดในโลก
ระยะทางประมาณ 2,400 กม รถไฟชินกันเซ็นของญี่ปุ่นยังนับว่ามีประสิทธิภาพดำเนินการสูงมาก
โดยนับถึงปัจจุบันยังไม่มีอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตเลย
ยิ่งไปกว่านั้น รถไฟยังเดินตรงเวลาอย่างมาก
|
|
การเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นได้ก่อให้เกิดการตื่นตัวครั้งใหญ่ในประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก
แต่กว่าที่ประเทศเหล่านี้จะเริ่มเปิดบริการรถไฟความเร็วสูง ก็ล้าหลังญี่ปุ่นไปแล้วนานถึง
17 ปี กล่าวคือ ฝรั่งเศสเปิดให้บริการเส้นทางแรกระหว่างกรุงปารีสกับนครลีออง
เมื่อปี 2524 โดยใช้ชื่อรถไฟว่า TGV นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างมากเช่นกัน
ผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้โดยสารเครื่องบินและรถบัสลดลงอย่างฮวบฮาบ
|
|
ส่วนเยอรมนีได้เปิดใช้รถไฟความเร็วสูงเช่นกัน
โดยใช้ชื่อว่า InterCityExpress (ICE) ซึ่งมีความเร็ว 280 กม./ชั่วโมง
ซึ่งประสบผลสำเร็จในเชิงธุรกิจอย่างมากเช่นกัน นอกจากใช้ในประเทศเยอรมนีแล้ว
บริษัทซีเมนส์ยังจำหน่ายรถไฟ ICE ให้แก่หลายประเทศ
|
|
เกาหลีใต้นับเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สนใจก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเนื่องจากการจราจรติดขัดนับว่าเป็นปัญหาหลักของประเทศ
ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจมากถึงปีละ 800,000 ล้านบาท
|
|
หน่วยงาน Korea High
Speed Rail Construction Authority (KHRC) ก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงชื่อ
Korea Train Express (KTX) เชื่อมระหว่างกรุงโซลและนครปูซาน ระยะทาง
412 กม. เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนเมษายน 2547
|
|
นอกจากก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงแล้ว
รัฐบาลเกาหลีใต้ยังผลิตตัวรถไฟเองด้วย โดยสถาบันวิจัยรถไฟแห่งประเทศเกาหลี
(Korea Railroad Research Institute - KRRI) ได้วิจัยและพัฒนาโดยได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากบริษัท
Alstom ของฝรั่งเศส โดยไม่ได้วิจัยเพื่อขึ้นหิ้ง แต่วิจัยเพื่อนำมาผลิตเชิงพาณิชย์
|
|
รถไฟความเร็วสูงของเกาหลีใต้มีกำลังสูงถึง
18,000 แรงม้า นับว่ามีพลังสูงกว่าของรถไฟ TGV ถึง 50% ทำให้สามารถแล่นได้ความเร็วสูงถึง
350 กม./ชั่วโมง โดยแต่ละขบวนบรรทุกผู้โดยสารได้ 935 คน จำแนกเป็นผู้โดยสารชั้น
1 จำนวน 127 คน และชั้นสอง 808 คน
|
|
สำหรับไต้หวันก็มีโครงการรถไฟความเร็วสูงเช่นเดียวกัน
มีระยะทาง 345 กม. จำนวน 10 สถานี เชื่อมโยงกรุงไทเปกับนครเกาสุงซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ
2 ของประเทศ ใช้เงินลงทุนมากถึง 600,000 ล้านบาท ดำเนินการโดยบริษัท
Taiwan High Speed Rail Corp. (THSRC) โดยใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่น
เป็นรถไฟฟ้ารุ่น โนโซมิ 700T มีความเร็วสูงสุด 300 กม./ชั่วโมง
|
|
สำหรับประเทศยังจีนซึ่งปัจจุบันมีโครงการรถไฟความเร็วสูงสายสั้นๆ
เชื่อมต่อระหว่างย่านศูนย์กลางทางการเงินใหม่ของนครเซี่ยงไฮ้กับท่าอากาศยานผู่ตง
ซึ่งมีระยะทาง 30 กม. โดยเป็นเทคโนโลยี Maglev ขับเคลื่อนด้วยพลังแม่เหล็ก
|
|
จีนยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อเชื่อมระหว่างกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้
ซึ่งปัจจุบันเส้นทางรถไฟดังกล่าวมีความยาว 1,463 กม. ใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง
14 ชั่วโมง โดยมีความเร็วเฉลี่ย 104.5 กม./ชั่วโมง
|
|
รัฐบาลจีนต้องการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมระหว่าง
2 เมืองดังกล่าว โดยย่นระยะเวลาเดินทางให้ลดลงเหลือเพียง 7 ชั่วโมง
โครงการนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสูงถึง 800,000 ล้านบาท กำหนดจะใช้เทคโนโลยีธรรมดา
ไม่ใช้เทคโนโลยี Maglev ซึ่งขับเคลื่อนโดยพลังแม่เหล็กแต่อย่างใด
เพื่อลดต้นทุน โดยตั้งเป้าหมายก่อสร้างแล้วเสร็จทันการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่งซึ่งจะจัดขึ้นในปี
2551 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าแทบที่จะเป็นไปไม่ได้ที่จีนจะก่อสร้างแล้วเสร็จทันกำหนดในปี
2551 เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้เปิดประมูลก่อสร้างแต่อย่างใด
|
|
สำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น
มาเลเซียได้ก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายสั้นๆ ระยะทาง 56 กม. เชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์กับท่าอากาศยานแห่งใหม่
โดยใช้ชื่อว่า Express Rail Link (ERL) ใช้รถไฟฟ้าผลิตโดยบริษัทซีเมนส์ของเยอรมนี
การเดินทางใช้เวลาเพียงแค่ 28 นาที เปิดดำเนินการแล้วเมื่อปี 2545
ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อยมาก เฉลี่ยเพียงแค่วันละ 5,000
คน
|
|
เดิมมาเลเซียเคยมีดำริว่าควรจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์
ใช้เงินลงทุน 55,000 ล้านบาท จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางลงมาก จากเดิมใช้เวลานานถึง
6 ชั่วโมง ให้ลดลงเหลือเพียง 90 นาที อย่างไรก็ตาม ต่อมาคณะรัฐมนตรีของมาเลเซียได้พิจารณาทบทวนและมีมติให้ยกเลิกโครงการเนื่องจากพิจารณาเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายแพงมาก
|
|
ส่วนประเทศไทยก็เคยมีการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงเช่นกัน
โดยจ้างบริษัท Wilbur Smith มาทำการศึกษาเมื่อปี 2537 ซึ่งจากการศึกษาพบว่าน่าจะก่อสร้างในเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดระยองมากที่สุด
โดยมีระยะทาง 191 กม.
|
|
จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าน่าจะก่อสร้างระบบรถไฟที่ความเร็ว
160 กม./ชั่วโมง เนื่องจากหากความเร็วสูงกว่านี้แล้ว ค่าก่อสร้างจะสูงมาก
มีการคำนวณว่าหากเป็นรถไฟ 160 กม./ชั่วโมง จะมีค่าก่อสร้างในขณะนั้นประมาณ
29,600 ล้านบาท โดยการเดินทางจากกรุงเทพถึงชลบุรีจะใช้เวลาเพียง
44 นาที, กรุงเทพถึงพัทยา 68 นาที, และกรุงเทพถึงระยองประมาณ 104
นาที อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้เก็บเข้าลิ้นชักไปตามระเบียบ
|
|
สุดท้ายนี้ ปัจจุบันเรามีรถไฟความเร็วสูงขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าและพลังแม่เหล็ก
แต่ในอนาคตยังมีอีกเทคโนโลยีที่กำลังได้รับการจับตามอง โดยเมื่อเร็วๆ
นี้บริษัท Bombardier ได้เปิดตัวรถไฟแบบใหม่ คือ Bombardier JetTrain
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไอพ่นเหมือนกับที่ใช้ในเครื่องบิน สามารถทำความเร็วได้สูงถึง
240 กม./ชั่วโมง ซึ่งมีข้อดี คือ ไม่ต้องลงทุนจำนวนมากเพื่อติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าไปยังตัวรถไฟ
|
|
จาก หนังสือพิมพ์
ผู้จัดการรายวัน วันที่ 12 เม.ย. 2547
|