|
เงินกู้สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โ ครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น
ครั้งที่ 28
|
|
|
|
วันที่ 7 เมษายน
2547 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
|
|
นายจักรภพ เพ็ญแข
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร
ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
|
|
17. เรื่อง โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น
ครั้งที่ 28
|
|
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น
ครั้งที่ 28 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และมติดังนี้
|
|
1. รับหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน
ร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
|
|
1.1 ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น
(Exchange of Notes)
|
|
1) รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่
จำกัด (บทม.) กู้เงินโดยผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น
(JBIC) ในวงเงิน 44,852 ล้านเยน สำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
|
|
2) เงินกู้ดังกล่าวข้างต้นมีเงื่อนไข
ดังนี้
|
|
(1) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
ร้อยละ 1.05 ต่อปี
|
|
(2) ระยะเวลาการชำระหนี้คืนเงินกู้
20 ปี รวมระยะเวลาหลอดหนี้ 6 ปี
|
|
(3) เงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ
และการจัดจ้างที่ปรึกษาให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของ
JBIC ซึ่งสามารถจัดซื้อได้จากทุกประเทศโดยวิธีประกวดราคานานาชาติ
|
|
(4) การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน
6 ปี
|
|
3) การใช้เงินกู้
ภายใต้ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน สำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ของ บทม. จะต้องให้กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
|
|
4) การชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยภายใต้การกู้เงินดังกล่าว
จะได้รับยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายไทย และรัฐบาลไทยจะอนุญาตให้บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติงานในโครงการเงินกู้
รวมทั้งพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ตามกฎหมายเท่าที่จำเป็น
|
|
5) สำหรับการขนส่งทางเรือและประกันภัยทางทะเลของสินค้าที่จัดซื้อด้วยเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว
รัฐบาลไทยจะงดเว้นการกำหนดข้อบังคับใด ๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรมของบริษัทเดินเรือและบริษัทประกันภัย
|
|
1.2 ร่างบันทึกข้อหารือ
(Record of Discussions)
|
|
1) ในประเด็นการโอนกิจการ
บทม. มาอยู่ภายใต้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รัฐบาลไทยมีความตั้งใจให้
บทม. หรือองค์กรที่จะควบรวมเข้าด้วยกัน เป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป โดยรัฐบาลไทยจะแจ้งให้รัฐบาลญี่ปุ่นทราบเกี่ยวกับการขายหุ้นเพิ่มทุนของ
บทม. หรือองค์กรที่จะควบรวมด้วยว่า จะไม่มีผลกระทบต่อเงื่อนไขสัญญาเงินกู้หรือต่อเป้าหมายการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นครั้งนี้
|
|
2) หากกรณีสถานภาพทางกฎหมาย
และความเป็นเจ้าของและการควบคุมของ บทม. เปลี่ยนไปจนกระทบต่อความสามารถในการดำเนินการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
JBIC จะระงับการเบิกจ่ายเงินกู้และเรียกร้องให้มีการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวคืนก่อนครบกำหนด
|
|
3) รัฐบาลไทยจะยังคงค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว
ไม่ว่าผู้กู้จะคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่
|
|
1.3 ร่างสัญญาเงินกู้
(Loan Agreement) และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้ (Guarantee Agreement)กระทรวงการคลังได้ร่วมกับ
บทม. เจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้
สำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 44,852 ล้านเยน ภายใต้โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น
ครั้งที่ 28 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของปริมาณการขนส่งทางอากาศ
และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้ และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว
มีสาระสำคัญสอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ดังกล่าวข้างต้น
|
|
2. ให้บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่
จำกัด กู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น
โดยมีกระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
|
|
3.
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในสัญญาค้ำประกันเงินกู้
และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่กล่าวข้างต้น |
|
จาก http://www.thaigov.go.th
ข่าวที่ 04/07-1 วันที่ 7 เมษายน 2547
|
|
สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
วันนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
17. เรื่อง โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 28
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 28 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และมติดังนี้
1. รับหลักการของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงิน ร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้
ซึ่งมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1.1 ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น
(Exchange of Notes)
1) รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) กู้เงินโดยผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น
(JBIC) ในวงเงิน 44,852 ล้านเยน สำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
2) เงินกู้ดังกล่าวข้างต้นมีเงื่อนไข ดังนี้
(1) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 1.05 ต่อปี
(2) ระยะเวลาการชำระหนี้คืนเงินกู้ 20 ปี รวมระยะเวลาหลอดหนี้ 6 ปี
(3) เงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ และการจัดจ้างที่ปรึกษาให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของ
JBIC ซึ่งสามารถจัดซื้อได้จากทุกประเทศโดยวิธีประกวดราคานานาชาติ
(4) การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 6 ปี
3) การใช้เงินกู้ภายใต้ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินสำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ของ บทม. จะต้องให้กระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
4) การชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยภายใต้การกู้เงินดังกล่าว จะได้รับยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายไทย
และรัฐบาลไทยจะอนุญาตให้บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติงานในโครงการเงินกู้
รวมทั้งพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ตามกฎหมายเท่าที่จำเป็น
5) สำหรับการขนส่งทางเรือและประกันภัยทางทะเลของสินค้าที่จัดซื้อด้วยเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว
รัฐบาลไทยจะงดเว้นการกำหนดข้อบังคับใด ๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรมของบริษัทเดินเรือและบริษัทประกันภัย
1.2 ร่างบันทึกข้อหารือ (Record of Discussions)
1) ในประเด็นการโอนกิจการ บทม. มาอยู่ภายใต้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
รัฐบาลไทยมีความตั้งใจให้ บทม. หรือองค์กรที่จะควบรวมเข้าด้วยกัน เป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป
โดยรัฐบาลไทยจะแจ้งให้รัฐบาลญี่ปุ่นทราบเกี่ยวกับการขายหุ้นเพิ่มทุนของ บทม. หรือองค์กรที่จะควบรวมด้วยว่า
จะไม่มีผลกระทบต่อเงื่อนไขสัญญาเงินกู้หรือต่อเป้าหมายการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นครั้งนี้
2) หากกรณีสถานภาพทางกฎหมาย และความเป็นเจ้าของและการควบคุมของ บทม. เปลี่ยนไปจนกระทบต่อความสามารถในการดำเนินการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
JBIC จะระงับการเบิกจ่ายเงินกู้และเรียกร้องให้มีการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวคืนก่อนครบกำหนด
3) รัฐบาลไทยจะยังคงค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว ไม่ว่าผู้กู้จะคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่
1.3 ร่างสัญญาเงินกู้ (Loan Agreement) และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้ (Guarantee
Agreement)กระทรวงการคลังได้ร่วมกับ บทม. เจรจาในรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้
สำหรับโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 44,852 ล้านเยน ภายใต้โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น
ครั้งที่ 28 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของปริมาณการขนส่งทางอากาศ
และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยรายละเอียดของร่างสัญญาเงินกู้ และร่างสัญญาค้ำประกันเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าว
มีสาระสำคัญสอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ดังกล่าวข้างต้น
2. ให้บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด กู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น
โดยมีกระทรวงการคลังในนามรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
3. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
และกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในสัญญาค้ำประกันเงินกู้
และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการที่กล่าวข้างต้น