|
ปักกิ่งเผย ผังเมืองใหม่แก้รถติด
เล็งย้ายศูนย์กลางไปชานเมือง |
|
|
ไชน่าเดลี่ - ปักกิ่งวางแผนชะลอจำนวนประชากรไม่เกิน 18 ล้านคนก่อนปี
2020
เพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำที่กำลังรุนแรง พร้อมเล็งระบายประชากรไปยังศูนย์กลางใหม่ที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ชานเมืองหลวง
หวังแก้ปัญหาจราจรในตัวเมือง
|
เมืองหลวงแดนมังกร
ที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนทรัพยากร
ได้วางแผนระยะยาวสำหรับการพัฒนาเมืองภายใน 16 ปีข้างหน้า
ระบุจะชะลอการเติบโตของจำนวนประชากรไม่ให้เกิน 18 ล้านคนก่อนปี 2020
หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตปีละ 1.4% จากปัจจุบันที่สูง 2.5% |
ปัจจุบัน ปักกิ่งมีประชากรราว
14.5 ล้านคน และอีก 3 ล้านคนที่ไม่ได้ลงทะเีบียนมีที่อยู่ถาวรในเมือง
ด้วยจำนวนประชากรที่มาก ทำให้ปักกิ่งต้องอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
ซึ่งปริมาณน้ำต่อคนต่อปีสูงเพียง 300 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าปริมาณน้ำในปักกิ่งมีเพียงพอสำหรับประชากรราว
17-18 ล้านคนเท่านั้น
|
ทั้งนี้
ปักกิ่งเติบโตอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เคยคาดไว้เมื่อ 10 ปีก่อน
ที่คาดว่าประชากรในเมืองหลวงจะเป็น 14 ล้านคนในปี 2040
แต่จำนวนดังกล่าวบรรลุไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว เร็วกว่าที่คาดไว้ถึง 37 ปี
นอกจากนี้ จำนวนพาหนะก็เพิ่มขึ้นเกิน 2.2 ล้านคันเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
ทั้งที่เคยคาดว่าจะป็น 1.3 ล้านคันในปี 2010
|
นอกจากนี้
เทศบาลเมืองปักกิ่งได้วางแผนที่จะเพิ่มบทบาทของ "พื้นที่ไกลปืนเที่ยง" เพื่อบรรเทาความแออัดของพื้นที่ในส่วนกลาง
|
ปักกิ่งได้ตัดสินใจสร้างเมืองใหม่ 11 แห่งในเขตชานเมือง อาทิ ทงโจว
ซุ่นอี้ และอี้จวง
ทางตะวันออกของปักกิ่ง ให้เป้นพื้นที่หลักสำหรับประชากรส่วนใหญ่และธุรกิจที่จะย้ายไปอยู่
โดยหวังว่าจะช่วยแก้ถึงต้นตอของปัญหาจราจรในตัวเมือง
|
ทั้งนี้
เขตตัวเมืองที่มีพื้นที่ครอบคลุมเพียง 12% ของปักกิ่ง
เป็นที่รองรับปริมาณการจราจรถึง 1 ใน 4
ทั่วเมืองหลวง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของหน่วยงานรัฐบาลและสถาบันกว่า 400
แห่ง
|
ขณะเดียวกัน
การเคลื่อนย้ายประชากรและธุรกิจออกจากพื้นที่ศูนย์กลางเมือง
ที่มีตึกโบราณอยู่เป็นจำนวนมาก
ก็ยังได้ประโยชน์ในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
ซึ่งตามผังเมืองใหม่ได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์เมืองเก่าและการก่อสร้างในเขตใจกลางเมือง
และพยายามฟื้นฟูโฉมหน้าที่เป็นประวั่ติศาสตร์ของปักกิ่งขึ้นมา
|
ในด้านการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน ได้ตั้งเป้าว่าก่อนปี 2020
จะมีประชาชนในเขตเมืองมากกว่าครึ่งที่เลือกใช้่ระบบขนส่งสาธารณะ
ซึ่ีงมากกว่าเมื่อปี 2000 ที่มีเพียง 27%
|
จาก
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน วันที่ 11 พ.ย.
2547
|
|