เมื่อวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 11
แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
(Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ณ
โรงแรมแชงกรี-ลา สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีนายโจโก
วิโดโด ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และ ตุน มูซา ฮิตัม ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย
เข้าร่วมการประชุม พร้อมด้วยบุคคลสำคัญอื่น ๆ
ที่เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีประจำแผนงาน IMT-GT
ของสามประเทศ โดยรัฐมนตรี IMT-GT ของไทย (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม) เลขาธิการอาเซียน (ดาโต๊ะ ลิม จ๊อก หอย)
รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (นายสตีเฟน พี กร๊อฟ) ร่วมด้วยนายสุรงค์
บูลกุล ประธานสภาธุรกิจ IMT-GT การประชุมฯ มีสาระสำคัญดังนี้
1. ผู้นำ IMT-GT
ได้รับทราบความสำเร็จของแผนงานความร่วมมือ IMT-GT ในโอกาสครบรอบ 25
ปี ที่แผนงานมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและความยากจนในพื้นที่ภายใต้แผนงานความร่วมมือ
โดยรัฐมนตรี IMT-GT
ของไทยได้รายงานถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก IMT-GT
ในระหว่างปี 2555-2559 ที่มีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.8 ต่อปี
โดยมีรายได้ต่อหัวประชากรของพื้นที่ IMT-GT เพิ่มขึ้น
และอัตราการว่างงานและภาวะความยากจนลดลงอย่างต่อเนื่อง
2. ผู้นำ IMT-GT
ได้เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน
38 โครงการของ 3 ประเทศ (มูลค่ารวม 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจใน IMT-GT
โดยไทยมีโครงการที่มีความคืบหน้าที่สำคัญ อาทิ
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระบบไฟฟ้า หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
และรถไฟทางคู่สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา
ที่จะเริ่มก่อสร้างโดยลำดับ
3. มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ปี
2579 ซึ่งให้ความสำคัญกับการบูรณาการ การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม
การพัฒนาที่ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำ ประกอบด้วย
การพัฒนาเมืองสีเขียว การพัฒนาภายใต้กรอบการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
การพัฒนาเส้นทางและวงจรท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ปราศจากความเหลื่อมล้ำ
และแข่งขันได้ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวปี 2560-2579
และแผนปฏิบัติการ ปี 2560-2564
การเตรียมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเรือสำราญใน IMT-GT
ที่เชื่อมโยงสู่นานาชาติและเน้นความสำคัญของภาคเอกชนในการดำเนินงาน
การพัฒนาภาคเกษตรเพื่อสร้างความยั่งยืน ปราศจากความเหลื่อมล้ำ
และใช้นวัตกรรม การเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
การปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสามประเทศเรื่องการขยายเส้นทางบิน
ซึ่งลงนามไว้ในปี 2538
เพื่อส่งเสริมการสร้างความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค
การผลักดันให้ใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลมาช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนใน
IMT-GT
การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อสร้างระบบห่วงโซ่คุณค่าเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง
ๆ ในอนุภูมิภาค และการเป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้า BIMP-EAGA and IMT-GT
ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดสงขลา ในเดือนกรกฎาคม 2561
4. ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไทยเสนอ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อแนวทางการขับเคลื่อนแผนงาน IMT-GT 4
ประเด็นดังนี้
4.1 การพัฒนาความเชื่อมโยงทางกายภาพบนมิติความริเริ่มใหม่ ๆ
โดยทั้งสามประเทศควรพิจารณาปัจจัยหรือกลยุทธ์ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก
(Game Changer) ต่อการพัฒนาพื้นที่ IMT-GT อาทิ
นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน เป็นต้น
ฝ่ายไทยจึงเสนอแนวระเบียงเศรษฐกิจที่หก โดยให้ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส
มาเชื่อมโยงกับรัฐเประและรัฐกลันตัน ซึ่งขณะนี้ไทยได้พัฒนาเมืองต้นแบบ
หนองจิก-เบตง-สุไหงโกลก
เชื่อมสู่มาเลเซียผ่านพื้นที่การพัฒนาด้านตะวันออก
และเชื่อมโยงด้านอันดามันกับมาเลเซียผ่านพื้นที่การพัฒนาตอนเหนือ
ไปสู่อินโดนีเซีย
4.2 ความร่วมมือในการก้าวเข้าสู่พัฒนาการทางเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
ได้เน้นย้ำทุกสาขาความร่วมมือควรใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อาทิ
สาขาการค้าการลงทุนจะต้องนำระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกการทำการค้าและการลงทุนตลอดจนขยายโอกาสทางธุรกิจ
สาขาเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรจะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาไปสู่การเกษตรและแปรรูปเกษตรที่ทันสมัยและยั่งยืน
พร้อมทั้งจะต้องเตรียมรับมือกับผลของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่จะมีต่อการจ้างงานหลายด้านที่อาจลดลง
เป็นต้น
4.3 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาและการพัฒนา IMT-GT
รุ่นใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง
โดยสนับสนุนให้มีการประสานงานระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคส่วนอื่น
ๆ อย่างสม่ำเสมอ และยกระดับสภาธุรกิจ IMT-GT
ให้สามารถประสานภาคธุรกิจทุกระดับ เสริมศักยภาพผู้ประกอบการรุ่นใหม่
รวมทั้งรับฟังข้อเสนอจากผู้มีส่วนได้เสียเพื่อความเป็นธรรมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
4.4 กำหนดระยะเวลาความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน
โดยไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในแผนงาน IMT-GT
ขึ้นอย่างเป็นทางการภายในปี 2562
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
5. ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีตอบรับข้อเสนอของผู้นำอื่น ๆ
เลขาธิการอาเซียนและธนาคารพัฒนาเอเชีย อาทิ
ความต่อเนื่องของการพัฒนาเมืองสีเขียวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะและเมืองน่าอยู่ต่อไป
และการใช้ประโยชน์จากการบูรณาการการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจที่หกกับแผนการพัฒนาทางรถไฟสายชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย
ข่าว : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.)
ภาพ : อมรเทพ ศรีประเสริฐ
หมายเหตุ:
ท่านที่มีความประสงค์จะรับทราบแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย
อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.nesdb.go.th
|