เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ห้องประชุมตึกสันติไมตรี
(หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล ดร.ปรเมธี
วิมลศิริ
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(กพข.) ครั้งที่ 1/2560 ที่มี พลเอก ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน และภาคเอกชน ได้แก่
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และสมาคมธนาคารไทย
รวมทั้งผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ร่วมการประชุม สรุปสาระสำคัญการประชุมได้ดังนี้
1. การมองหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบ
นำแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศระยะ 20 ปี
ไปประกอบการทบทวน/จัดทำ แผนงานและโครงการในระดับปฏิบัติ
โดยแนวทางการขับเคลื่อน จะแบ่งเป็นช่วงๆ ดังนี้
- ในช่วง 5 ปีแรก
ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการวางรากฐานการพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่
๑๒ จะต้องเร่งรัดการพัฒนาในประเด็นสำคัญ เช่น
สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเกษตร สร้างมูลค่าเพิ่มด้านบริการ
พัฒนาอุตสาหกรรมโดยระบบอัตโนมัติ ยกระดับบริการภาครัฐ
เร่งรัดการลงทุนไปสู่ประเทศในภูมิภาค
และการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ ทรัพยากรมนุษย์คุณภาพ
โครงสร้างพื้นฐานเพื่อธุรกิจและคุณภาพชีวิต
การพัฒนาเมืองและพื้นที่เฉพาะ รวมทั้งการสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้เข้มแข็ง
นอกจากนี้ต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของชาติอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับชีวิตและการทำงานอย่างมีเป้าหมาย
การให้คุณค่ากับความสามารถในการทำงานมากกว่าวุฒิการศึกษา
และการให้คุณค่ากับความคิดสร้างสรรค์และการเคารพในทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งนี้คาดว่า เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ปี พ.ศ. 2564
จะต้องเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เช่น คนไทยมีทักษะหลากหลาย
พูดได้อย่างน้อย 2 ภาษา มีสำนึกรักษ์สุขภาพ เกิดเมืองต้นแบบในทุกภาค
เกิด Smart Design แพร่หลาย
มีระบบการผลิตที่เป็นอัตโนมัติและสะอาดเกิดขึ้นมากมาย
และมีสภาพแวดล้อมทางด้านกฏระเบียบและกฏหมายต่างๆ
ที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ
- ในช่วงที่ 2
เป็นช่วงของการต่อยอดและเร่งกระบวนการพัฒนาเพื่อไปสู่ความเป็นชาติการค้าและสังคมผู้ประกอบการของประเทศไทย
ที่สามารถเติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
และเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่โดดเด่น
โดยจะต้องเร่งเสริมปัจจัยสำคัญอย่างน้อย 4 ปัจจัย ได้แก่ (1)
ส่งเสริมการศึกษาวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า (2) มีระบบการศึกษารูปแบบใหม่
จากการปฏิรูปการศึกษาแล้วเสร็จ (3)
มีการลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง
ในเมืองหลักของแต่ละจังหวัด และ (4)
มีการเพิ่มแรงงานที่มีความสามารถสูงให้มีส่วนร่วมในภาคธุรกิจมากขึ้น
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนาตามที่เสนอ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาประกอบการจัดทำยุทธศาสตร์
และแผนงาน/โครงการ ระยะ 20 ปี ตามขั้นตอนต่อไป
2.
การกำหนดนโยบายเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับแนวทางการขับเคลื่อนการจัดระบบข้อมูลตัวชี้วัด
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปดำเนินการให้มีความครบถ้วน
ถูกต้อง และเป็นระบบมาตรฐาน
โดยตัวชี้วัดที่สถาบันจัดอันดับระหว่างประเทศ
ในการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย มีทั้งหมด 259
รายการ ซึ่ง 31 รายการในด้าน Infrastructure
มีข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันกับสถาบัน IMD และมีเจ้าภาพชัดเจนแล้ว
แต่ยังเหลือตัวชี้วัดอีก 228 รายการ ที่ต้องมีการปรับปรุงข้อมูล โดย
47 หน่วยงานซึ่งเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบข้อมูลตัวชี้วัดแต่ละตัว
ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ
เป็นแกนกลางดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ปรับปรุงและบูรณาการระบบข้อมูลตัวชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(Competitiveness Data Set) ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง
และเป็นระบบมาตรฐาน และรายงานความก้าวหน้าต่อ กพข.
ให้ทราบเป็นระยะ
3. นอกจากนี้
ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าด้านต่างๆ ดังนี้
-
การขับเคลื่อนการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในช่วงแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 12 ซึ่งจะต้องเร่งรัดใน 8 ประเด็น ได้แก่ (1)
การสร้างความเข้มแข็งให้ห่วงโซ่คุณค่าของภาคเกษตร (2)
การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคบริการ(3)
การพัฒนากลไกสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรม (4)
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเติบโตของธุรกิจ (5)
การพัฒนากลไกส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี/นวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
(6) การส่งเสริมการพัฒนาสมรรถนะฝีมือแรงงานตลอดชีวิต (7)
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการประกอบธุรกิจในยุคดิจิทัลบนฐานความรู้และนวัตกรรม
(8) และการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรและสร้างพลังผู้ประกอบการ
-
แผนงานการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ที่จะต้องได้รับความสำคัญมากขึ้น
เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการของภาครัฐ
ซึ่งมีผลกระทบต่อผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยโดยสถาบันจัดอันดับระหว่างประเทศ
-
ความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการของคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ
ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค
คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาทรัพยากรณ์มนุษย์
คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาประสิทธิภาพภาครัฐและการพัฒนากระบวนการทางศุลกากร
และคณะอนุกรรมการด้านการจัดการข้อมูลและสื่อสารประชาสัมพันธ์
ข่าว : สำนักพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
สศช.
ภาพ : วิศณุ ติวะตันสกุล
|