ดร.วันฉัตร สุวรรณกิตติ
รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เข้าร่วมการประชุมในคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee: EC)
ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลักของเอเปค
ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3
และการประชุมที่เกี่ยวข้องซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมแชงกรี-ลา
จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสาระการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
- การประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 2
(EC2) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม 2565
ได้มีการหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนประเด็นด้านการปฏิรูปโครงสร้างภายใต้การยกระดับวาระการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค
(Enhanced APEC Agenda on Structural Reform: EAASR)
และหารือแนวทางในการจัดทำรายงานระยะครึ่งแผน (EAASR mid-term review)
ตลอดจนหารือประเด็นที่ภูมิภาคให้ความสนใจ
ทั้งเรื่องการฟื้นตัวที่ยั่งยืนและมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ
การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจทัลในการส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐ
แนวทางในการดำเนินงานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ
นโยบายการแข่งขันทางการค้า แนวปฏิบัติด้านบรรษัทภิบาลที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปค ดร.วันฉัตรฯ
ได้เสนอหัวข้อการจัดทำรายงานเศรษฐกิจเอเปคประจำปี 2566 (2023 APEC
Economic Policy Report) เรื่อง Structural Reform
and Enabling Environment for Inclusive, Resilient and Sustainable
Business
(การปฏิรูปโครงสร้างและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและมีส่วนร่วม)
โดยจะมุ่งเน้นการปฏิรูปโครงสร้างและการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืน
มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเปค
โดยมีไทยและสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมดำเนินการหลัก (Core Team Co-Lead)
ร่วมกับอีก 8 เศรษฐกิจที่จะเป็น Core Team
- การหารือเชิงนโยบาย เรื่อง
ความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Policy Dialogue on Ease of Doing
Business: EoDB) ภายใต้หัวข้อ
"การดำเนินการเพื่อการเข้าถึงสินเชื่อที่ง่ายขึ้น” (Easier Access to
Credit) ซึ่งเป็นการหารือในวาระการประชุมของ EC2 ที่จัดขึ้นในวันที่
27 สิงหาคม 2565
โดยการหารือเชิงนโยบายในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
(deliverables) ในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย โดย สศช.
ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.)
เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม
โดยในช่วงแรกได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับนโยบายและมาตรการที่สนับสนุนการได้รับสินเชื่อ
อาทิ ระบบค้นหาข้อมูลหลักประกัน การรายงานข้อมูลสินเชื่อแบบองค์รวม
(Comprehensive Credit Reporting) ข้อมูลเครดิตทางเลือก
โครงการการช่วยเหลือการเข้าถึงสินเชื่อของ MSMEs ในช่วงที่ 2
เป็นการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลสินเชื่อข้ามพรมแดน
(Cross-border Credit Information Collaboration)
ภายในภูมิภาคเอเปค
- การประชุมว่าด้วยแนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ
ครั้งที่ 15 (15th Good Regulatory Practice Conference:
GRP15) จัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ซึ่ง สศช.
เป็นเจ้าภาพในการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)
ซึ่งการประชุม GRP ครั้งนี้
มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้มาตรการด้านกฎระเบียบและการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
และการฟื้นตัวในระยะต่อไป
โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับใช้ GRP
ในการออกแบบกฎระเบียบหรือนโยบายเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19
อย่างทันท่วงที โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากการนำ GRP
มาใช้ในการกำหนดนโยบายเพื่อให้เกิดความคล่องตัว (Agile) แล้ว
ยังควรให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
และการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎระเบียบ (International
Regulatory Cooperation: IRC)
ให้สอดรับกับบริบทการพัฒนาของโลกที่มีความผันผวน มีความเป็นพลวัตสูง
และเชื่อมโยงถึงกันอย่างไร้พรมแดน
ภาพ/ข่าว :
กองยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|