เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยภริยา นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 ณ สวนหลวงพระราม 8 ทั้งนี้ โดยมีกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ ณ สวนหลวงพระราม 8 อาทิ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
สำหรับผู้บริหารที่ร่วมพิธีดังกล่าว ประกอบด้วย รองเลขาธิการ สศช. ได้แก่ นายดนุชา พิชยนันท์ นายวิชญายุทธ บุญชิต นายวิโรจน์ นรารักษ์ นายเอนก มีมงคล และนางสาวจินางค์กูร โรจนนันต์ และที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ได้แก่ นางธิดา พัทธธรรม นางนภัสชล ทองสมจิตร และนายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ
การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เคลื่อนขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา และเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ แล้วเสด็จพระราชดำเนินประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ยาตราโดยริ้วขบวนราบไปยังพระบรมหาราชวัง มีพระราชยานถมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 นำริ้วขบวนราบ และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
สำหรับเรือพระราชพิธีเข้าร่วมขบวนทั้งหมดมี 52 ลำ ใช้กำลังพลประจำเรือรวม 2,399 นาย เป็นกำลังพลฝีพาย 2,200 นาย และกำลังพลที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง และนักดนตรีประจำเรือ 199 นาย การจัดรูปขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นการจัดรูปขบวนตามโบราณราชประเพณี โดยแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้
1. ริ้วสายกลาง เป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ มีเรืออีเหลือง (เรือกลองนอก) เรือแตงโม (เรือกลองใน) ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ พร้อมด้วยเรือตำรวจ 3 ลำ และเรือแซง 1 ลำ รวมเป็นจำนวน 10 ลำ
2. ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง ประกอบด้วย เรือทองขวานฟ้า และเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทะยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ ปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก รวมเป็นจำนวน 14 ลำ
3. ริ้วสายนอก ประกอบด้วย เรือดั้ง 22 ลำ และเรือแซง 6 ลำ แบ่งเป็นริ้วละ 14 ลำ รวมเป็นจำนวน 28 ลำ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
ข่าว : วันทนีย์ สุขรัตนี
ภาพ : เมฐติญา วงษ์ภักดี |