คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนและขั้นตอนการปฏิรูปโดยจัดลำดับความสำคัญของเรื่องเร่งด่วนพร้อมน้อมนำศาสตร์พระราชาและแนวทางในการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้และขยายผลต่อ
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ณ ห้องประชุมสุนทร หงส์ลดารมภ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ดร.รอยล จิตรดอน ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการประชุมไปแล้ว 12 ครั้ง โดยการประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการดำเนินงานของคณะทำงานภายใต้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้ง 6 เรื่อง คือ ทรัพยากรทางบก ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความหลากหลายทางชีวภาพ สิ่งแวดล้อม และ ระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมเพื่อการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนคณะกรรมการฯ ในการดำเนินงานเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความรับรู้ความเข้าใจ และติดตามผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีนี้
นอกจากนี้ ได้นำข้อเสนอการปฏิรูปและผลการดำเนินการที่ผ่านมา ขององค์กรและคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวช้อง เช่น สปช. สปท. สนช. องค์กรตุลาการ มาร่วมพิจารณาเพื่อจัดทำร่างแผนการดำเนินการปฏิรูปฯ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และนำเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และ คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ในการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น คณะกรรมการฯ เห็นร่วมกันว่าเมื่อขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปแล้ว ต้องเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน โดย (1) ทรัพยากรธรรมชาติจะได้รับการรักษาและฟื้นฟูให้มีความสมบูรณ์และยั่งยืน เป็นฐานการพัฒนาประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (2) สิ่งแวดล้อมได้รับการดูแลรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพลดมลพิษ และ ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศ (3) เกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ ลดความขัดแย้งของการพัฒนาที่ใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติ บรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และลดภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ (4) มีระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศ
สำหรับผลสัมฤทธิ์ในระยะเร่งด่วนที่จะเห็นเป็นรูปธรรมและตอบโจทย์ประชาชนได้นั้น คือ การขยายผลจากพื้นที่แบบอย่างความสำเร็จด้านต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย ไปประยุกต์ใช้ยังพื้นที่อื่นๆ ที่เกิดปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในลักษณะเดียวกัน
ดร.รอยล จิตรดอน กล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากได้ร่างแผนปฏิรูปฯ ในเบื้องต้นแล้ว คณะกรรมการฯ จะเริ่มลงพื้นที่เพื่อดูแบบอย่างความสำเร็จและร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ซึ่งในวันที่ 7-8 พฤศจิกายนนี้ จะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแห่งแรก โดยกำหนดจัดที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ ในจังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่แบบอย่างความสำเร็จอยู่อีก 1 พื้นที่ นั่นคือ ชุมชนป่าภูถ้ำ ภูกระแต ตำบลแวงน้อย อำเภอแวงน้อย ที่มีการผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้านมาบริหารจัดการน้ำบนพื้นที่สูงลอนคลื่น ซึ่งสามารถกักเก็บ สำรองน้ำ และบรรเทาน้ำหลาก เกิดเป็นกองทุนสระแก้มลิงจากการขุดลอกคลองดักน้ำหลากและคลองซอยกระจายน้ำเข้าสู่สระแก้มลิง ชุมชุนสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองในด้านการบริหารจัดการน้ำ วางแผนขุดลอกคลองดักน้ำหลากและคลองซอยเชื่อมต่อคลองส่งน้ำเดิมในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 417,493 ลูกบาศก์เมตร และมีการดำเนินงานตัวอย่างทฤษฏีใหม่ 67 ครัวเรือน สามารถสร้างรายได้เพิ่มกว่า 3.22 ล้านบาทต่อปี จากความสำเร็จเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ และเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำพาชุมชนรอดพ้นวิกฤต ประกอบกับการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ยังทำให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำ ด้านผลผลิต ด้านสังคมและเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นหนทางที่นำไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง
และนอกจากการเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นที่จะจัดขึ้นแล้ว ทุกคนสามารถสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ง่ายๆ ผ่านทาง
(1) แอพลิเคชั่น Line ที่ http://line.me/R/ti/g/3_ixH-2BXa
(2) Facebook ที่ https://www.facebook.com/nre.reform
และ (3) E-mail ที่ nre.reform@gmail.com
ข่าว : คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภาพ : รวีวรรณ เลียดทอง/เมฐติญา วงษ์ภักดี
|