เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2559 ดร.เสนาะ อูนากูล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2 สมัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิด "ห้องเกียรติยศศิษย์เก่า สศช.” ณ บริเวณห้องโถง อาคาร 1 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดย ดร.ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. ให้การต้อนรับอดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. ที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
ดร.ปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการฯ ได้กล่าวมอบห้องเกียรติยศศิษย์เก่า สศช. ความตอนหนึ่งว่า ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับอดีตผู้บริหาร และศิษย์เก่า สศช. ที่กลับมาเยือนสำนักงานฯ ในพิธีเปิด "ห้องเกียรติยศศิษย์เก่า สศช.” ซึ่ง สศช. ได้จัดเตรียมไว้รับรองศิษย์เก่าในการติดต่อกับสำนักงานฯ และสานสัมพันธ์กับศิษย์ปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นโอกาสกาสอันดีที่อดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สศช. จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป
ศิษย์เก่า สศช. ทุกคนล้วนเป็นผู้ซึ่งมีพลังและวิสัยทัศน์กว้างไกล ได้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตนร่วมขับเคลื่อนองค์กรในการเสริมสร้างภารกิจสำคัญๆ มากมายอย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อยหรือย่อท้อ โดยยึดมั่นในวัฒนธรรมขององค์กรที่ใช้คุณธรรมนำความรู้ ช่วยให้ สศช. ได้รับความไว้วางใจในการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าสืบมา ซึ่งนับเป็น "เกียรติยศ” อันยิ่งใหญ่ของ สศช. โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้น นายต่อพงศ์ วัจนะสวัสดิ์ อดีตข้าราชการ สศช. และอดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก หรือ สจร. ซึ่งปัจจุบันคือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวถึงความเป็นมาในการจัดตั้งชมรมศิษย์เก่า สศช. ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 200 คน และมีกองทุนศิษย์เก่า สศช. สำหรับใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ด้วย
ต่อจากนั้น ดร.เสนาะ อูนากูล อดีตเลขาธิการฯ ได้กล่าวรับมอบห้องเกียรติยศศิษย์เก่า สศช. ว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ สศช. ได้เชิญมาเป็นประธานในพิธีเปิดห้องดังกล่าว และขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ได้ร่วมกันจัดเตรียมห้องรับรองสำหรับศิษย์เก่า สศช. รวมทั้งได้ร่วมแสดงมุทิตาจิตในการได้รับการยกย่องเป็น "ผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2559” ซึ่งการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วนั้น จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศเป็นอย่างมาก และเป็นที่น่ายินดีที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ได้มีการวางแผนและนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วย
สำหรับบทบาทของ สศช. ที่ผ่านมานั้น จะมีบทบาทหรือไม่ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าให้ความสำคัญกับแผนฯ อย่างไร ดังนั้นการที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ให้ความไว้วางใจและมอบหมายงานสำคัญๆ หลายอย่างให้ สศช. จึงเป็นโอกาสดีที่จะสร้างสรรค์งานพัฒนาประเทศด้านต่างๆ โดยต้องมีความพร้อมที่จะสามารถชี้ช่องหรือแนวทางที่จะทำให้คนมองเห็นว่า สิ่งที่ สศช. ชี้นำและเสนอแนะนั้นเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ อันจะช่วยเสริมสร้างบทบาทและชื่อเสียง สศช. ให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ขณะเดียวกัน ควรส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้น และเปิดโอกาสให้คนดีและเก่ง เข้ามาร่วมงานขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้มีความเจริญ ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป
ในโอกาสนี้ ดร.เสนาะ อูนากูล ได้มอบเงินเป็นกองทุนสำหรับใช้ในการจัดกิจกรรมของห้องเกียรติยศศิษย์เก่า สศช. จำนวน 50,000 บาท ด้วย
สำหรับอดีตผู้บริหาร สศช. ที่ให้เกียรติร่วมงานครั้งนี้ อาทิ นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม อดีตเลขาธิการ สศช. และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสาวิตต์ โพธิวิหค อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตรองเลขาธิการ สศช. อาทิ นายอานุภาพ สุนอนันต์ นายพายัพ พยอมยนต์ นายภิรมย์ศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ และนางสาววิไลพร เกษมศานต์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน อาทิ นายสมบัติ ชุตินันท์ นายสุรพันธ์ จุ่นพิจารณ์
ภาพ : วันทนีย์ สุขรัตนี / เมฐติญา วงษ์ภักดี / อมรเทพ ศรีประเสริฐ
|