สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดประชุมระดมความคิดเห็นการพัฒนาคู่มือ SEA เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติ ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมแบงค็อก มิดทาวน์ (Bangkok Midtown Hotel) กรุงเทพมหานคร โดยมี ดร. วิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการ สศช. กล่าวเปิดการประชุม
ดร. วิชญายุทธ บุญชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา สศช. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) มาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการวางแผนด้วย SEA และส่งเสริมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการจัดทำแนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์และคู่มือ SEA เชิงประยุกต์ต่าง ๆ อาทิ คู่มือ SEA เพื่อการวางแผนเชิงพื้นที่ คู่มือ SEA เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนด้านทรัพยากรน้ำ รวมทั้งคู่มือการกำกับงานวิชาการ ด้านการจัดทำแผนด้วย SEA และคู่มือติดตามและประเมินผล SEA
สำหรับคู่มือ SEA เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติ เป็นหนึ่งในคู่มือ SEA ที่ สศช. กำลังดำเนินการจัดทำ โดยการจัดทำ SEA ในพื้นที่แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติจะทำในกรณีที่การพัฒนาใด ๆ มีผลกระทบกับคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Value: OUV) ที่ไทยได้ขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการมรดโลก (World Heritage Committee) และองค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งการทำ SEA กับพื้นที่มรดกโลกมีความท้าทายในการดำเนินการให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ โดยประเทศยังมีการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ในขณะเดียวกันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่ลดทอน OUV ซึ่งจะมีผลต่อสถานภาพของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ รวมทั้งในปัจจุบันพบว่ายังไม่มีประเทศใดเขียนคู่มือการจัดทำ SEA ในบริบทของพื้นที่มรดกโลกไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้น การจัดทำคู่มือฉบับนี้จึงเป็นการทบทวน ศึกษาและวิเคราะห์หลักการและแนวทางในการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกในระดับสากล (Toolkit) และสังเคราะห์บทเรียนและประสบการณ์การจัดทำ SEA กับแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของต่างประเทศ อาทิ การจัดทำ SEA ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศบังคลาเทศ เพื่อการอนุรักษ์ OUV ของป่าชายเลนซุนดาร์บันส์ และกรณีศึกษาอุทยานแห่งชาติวู้ดบัฟฟาโล ประเทศแคนาดา รวมทั้งปรึกษาหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ SEA และหน่วยงานจากต่างประเทศ และหน่วยงานที่ของไทยเกี่ยวข้อง เพื่อสะท้อนข้อเท็จจริงและสอดคล้องกับบริบทการพัฒนาของประเทศอย่างเหมาะสม
สศช. ได้กำหนดให้มีการประชุมระดมความคิดเห็นต่อการพัฒนาคู่มือฯ จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ครั้ง โดย ครั้งที่ 1 จัดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ของ (ร่าง) คู่มือฯ ที่ได้จากการศึกษา วิเคราะห์ และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น และครั้งที่ 2 ในวันนี้ เพื่อนำเสนอคู่มือฯ (ฉบับปรับปรุง) ที่ได้ปรับปรุงตามความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมระดมความคิดเห็น ครั้งที่ 1 พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และการใช้คู่มือ SEA เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติ
การประชุมระดมความคิดเห็นในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุม จำนวน 64 คน เป็นผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมโยธาธิการและผังเมือง โดยการประชุม แบ่งออกเป็น
ช่วงที่ 1 การนำเสนอผลจากการระดมความคิดเห็น ครั้งที่ 1 และนำเสนอ (ร่าง) คู่มือ SEA
เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติ (ฉบับปรับปรุง) โดย รศ.ดร. วันเพ็ญ วิโรจนกูฏ ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (หัวหน้าโครงการ)
ช่วงที่ 2 การระดมความคิดเห็นต่อ (ร่าง) คู่มือ SEA เชิงประยุกต์ฯ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้าง
องค์ความรู้ และความเข้าใจในการใช้คู่มือ SEA เชิงประยุกต์ฯ โดย รศ.ดร. วันเพ็ญ วิโรจนกูฏ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ทั้ง ผศ.ดร. เรวดี โรจนกนันท์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ ดร.กฤศ ฉายแสงเดือน ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และ นางสินี ช่วงฉ่ำ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทางสังคม
ผลจากการประชุมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ จะนำไปปรับปรุงคู่มือ SEA เชิงประยุกต์ เพื่อการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สอดคล้องกับบริบทต่างๆ ของประเทศ โดย สศช. มุ่งหวังว่า การจัดทำคู่มือฯ ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานเจ้าของแผน ทั้งด้านการพัฒนาและการอนุรักษ์ที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกทางธรรมชาติ สามารถดำเนินการจัดทำ SEA ให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพิจารณาถึงภัยคุกคาม ผลกระทบสะสมที่จะส่งผลต่อคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ และออกแบบมาตรการเพื่อความยั่งยืนในการจัดการพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติได้ต่อไป
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
7 พ.ค. 2568 |