ข่าวสาร
ข่าวสาร/กิจกรรม
ผู้แทน JICA เข้าพบเลขาธิการ สศช. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทิศทางการดำเนินงานในประเทศไทยและแนวทางความร่วมมือกับ สศช. ในอนาคต 
วันที่ 7 มี.ค. 2566 (จำนวนผู้เข้าชม  36)
องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) เข้าพบเลขาธิการสภาพัฒน์ และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างเอกสาร เรื่อง Introduction on the Draft JICA Country Analysis Paper (JCAP) ทิศทางการดำเนินงานของ JICA ในประเทศไทย และแนวทางความร่วมมือในอนาคตร่วมกับ สศช.

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการฯ ให้การต้อนรับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) ในโอกาสเข้าพบเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างเอกสาร เรื่อง Introduction on the Draft JICA Country Analysis Paper (JCAP) ซึ่งเป็นทิศทางการดำเนินงานของ JICA ในประเทศไทย และแนวทางความร่วมมือในอนาคตร่วมกับ สศช. ณ ห้องประชุมเดช สนิทวงศ์ สศช. โดยมีผู้แทนจาก JICA และเจ้าหน้าที่สายงานสังคมเข้าร่วม

ผู้แทนจาก JICA นำโดย Mr. Suzuki Kazuya, Chief Representative และคณะ ได้นำเสนอ the Draft JICA Country Analysis Paper (JCAP) ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดและทิศทางการดำเนินงานของ JICA ในประเทศไทย โดยพิจารณาจากสถานะและระดับรายได้ของประเทศ สถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบันและนโยบายการพัฒนาของประเทศไทย โดยในครั้งนี้จะเป็นการจัดทำ JCAP เป็นฉบับแรกของประเทศไทย โดยเสนอแนวทางความร่วมมือในรูปแบบใหม่ ได้แก่ (1) ความร่วมมือระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในประเด็นปัญหาร่วมของภูมิภาค (2) การเป็นพันธมิตรที่เท่าเทียมกันในการสร้างมูลค่า (Value) ใหม่ร่วมกัน ซึ่งจะมุ่งเน้นการจัดการปัญหาสังคมที่มีความยุ่งยากซับซ้อน การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การขับเคลื่อนการเงินเชิงพาณิชย์ การกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างญี่ปุ่น-ไทย และการเชื่อมโยงกับภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 

นอกจากนี้ Mr. Suzuki Kazuya ได้หารือถึงประเด็นแนวทางการพัฒนาประเทศไทยในระยะต่อไป อาทิ การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ การรองรับสังคมสูงวัย โดยหนึ่งในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะสังคมสูงวัย คือ การขาดแคลนอาชีพ/ความไม่เพียงพอของงานที่มีรายได้สูงในพื้นที่ชนบท ส่งผลให้วัยแรงงานจึงย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมืองเพื่อหางานทำ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้สูงอายุต้องอาศัยอยู่ลำพังในชนบทมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ชนบท (Rural Revitalization) โดยมุ่งพัฒนาให้เกิดอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ได้มากขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เกิดงานที่เพียงพอในการลดการย้ายถิ่นเข้าสู่เมือง และลดปัญหาผู้สูงอายุต้องอาศัยโดยลำพังในชนบท นอกจากนี้ มิติการพัฒนาอีกด้านที่อาจต้องคำนึงถึงสำหรับประเทศไทย คือ การรับมือหากแรงงานชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย มีแนวโน้มกลับไปทำงานที่ประเทศของตนมากยิ่งขึ้น

นายดนุชาฯ กล่าวว่า แนวทางความร่วมมือในรูปแบบใหม่ของ JICA สอดรับกับทิศทางการพัฒนาของประเทศ โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลโดยเฉพาะด้านการเงิน โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพโดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งทั้งทางถนนและทางรถไฟ รวมถึงได้มีการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ซึ่งจะช่วยกระจายความเจริญออกจากศูนย์กลาง และช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้คนรุ่นใหม่มีงานทำที่ใกล้ภูมิลำเนายิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor: NEC - Creative LANNA) ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor: NeEC – Bioeconomy) ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง - ตะวันตก (Central - Western Economic Corridor: CWEC) และ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC) อีกทั้ง มุ่งเน้นการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ/อุตสาหกรรมดิจิทัลของอาเซียน รวมถึงการขับเคลื่อนภาคการเกษตรสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบนฐานเทคโนโลยีและการวิจัยพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น 

นอกจากนี้ ได้วางแนวทางรองรับสภาวะสังคมสูงวัย ที่เน้นเรื่องการยกระดับให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสมเมื่อออกจากตลาดแรงงานแล้ว ตลอดจนมุ่งพัฒนาการกระจายการศึกษาให้มีความเท่าเทียมในทุกพื้นที่ การนำเทคโนโลยี/หุ่นยนต์/ระบบอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน และการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อรองรับสถานการณ์การสูญเสียแรงงานจากการที่แรงงานชาวต่างชาติเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศของตน

ข่าว : กองยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคม
ภาพ : เมฐติญา  วงษ์ภักดี

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-2804085 (40 คู่สาย) แฟกซ์ : 0-2281-3938 E-mail : pr@nesdc.go.th , webmaster@nesdc.go.th
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์