ข่าวสาร
ข่าวสาร/กิจกรรม
สศช. กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการขับเคลื่อน การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค
วันที่ 3 มี.ค. 2566 (จำนวนผู้เข้าชม  60)
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยรองเลขาธิการ สศช. (นายเอนก  มีมงคล) ร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด/รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน จาก 16 จังหวัดในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษใน 4 ภาค (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเดช สนิทวงศ์ สศช. และบางส่วนเข้าร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมรวมประมาณ 100 คน ซึ่งในการประชุม ได้ร่วมหารือเพื่อบูรณาการจัดทำแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค  

นายเอนก มีมงคล รองเลขาธิการ สศช. กล่าวว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษได้ดำเนินการภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. 2564 และมีคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เลขาธิการ สศช. เป็นกรรมการและเลขานุการ เป็นกลไกระดับชาติในการกำหนดนโยบาย และขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่านคณะอนุกรรมการ 3 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านกำหนดพื้นที่ สิทธิประโยชน์ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ คณะอนุกรรมการ ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และคณะอนุกรรมการด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ รวมทั้งมีคณะทำงานในระดับพื้นที่ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานทั้ง 16 จังหวัด โดย สศช. ได้ประสานขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ 

ความก้าวหน้าสำคัญ สรุปได้ดังนี้ 1) การประกาศพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค โดยมีขอบเขตระดับจังหวัด ครอบคลุม 16 จังหวัด 2) การกำหนดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามศักยภาพและโอกาส ของแต่ละระเบียงฯ รวม 6 คลัสเตอร์ ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และ 3) การกำหนดสิทธิประโยชน์ โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ ในระดับสูงตามคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยกลุ่ม A1+ เช่น อุตสาหกรรมต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ Biotech Nanotech ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้ฯ 10-13 ปี (ไม่จำกัดวงเงิน) และกลุ่ม A1–A4 เช่น อุตสาหกรรมฐานความรู้ที่เน้นการออกแบบและการวิจัยพัฒนา กลุ่มกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้ฯ 3-8 ปี นอกจากนี้ หากมีการพัฒนาบุคลากร หรือวิจัยและพัฒนา จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยกิจการในกลุ่ม A1+ ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 2 ปี สำหรับกิจการในกลุ่ม A1 A2 A3 และ A4 ให้ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการลงทุน ในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติ เพิ่มเติมอีก 3 ปี นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 

การขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษกิจพิเศษ คณะกรรมการ กพศ. ได้กำหนดกรอบการขับเคลื่อนการพัฒนาใน 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1) การให้สิทธิประโยชน์และการอำนวยความสะดวกการลงทุน 2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 3) การพัฒนาห่วงโซ่การผลิตและบริการ 4) การพัฒนาแรงงานและสนับสนุนผู้ประกอบการ และ 5) การวิจัยและพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยคณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งจัดทำแผนขับเคลื่อนการพัฒนาในแต่ละด้าน (รวมถึงโครงการสำคัญที่ขับเคลื่อนในช่วงปี 2566-2570) โดยมี สศช. ร่วมประสานดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันจัดทำรายละเอียดของแผนขับเคลื่อนการพัฒนาดังกล่าวต่อไป

นายสุทธิพงษ์  จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมในประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1) การพัฒนาโดยใช้ประโยชน์จากประเภทสินค้าและบริการที่พื้นที่ระเบียงฯ และพื้นที่เกี่ยวเนื่อง มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยทั้งในด้านการรวบรวมวัตถุดิบที่มีคุณภาพและได้จำนวนมาก การกระจายฐานการผลิต การแปรรูป และการตลาด ไปยังจังหวัดใกล้เคียงซึ่งไม่ได้อยู่ในจังหวัดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษให้ได้รับประโยชน์ด้วย 2) การสนับสนุนสิทธิประโยชน์ การให้สิทธิประโยชน์กับผู้ลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ควรกำหนดให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ลงทุนเป็นหลัก เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ และควรคำนึงถึงการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมในพื้นที่ให้เอื้อต่อการดึงดูดการลงทุน เช่น การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและบริการ การพัฒนาสินค้าและบริการในพื้นที่ โดยการสนับสนุนการต่อยอดงานวิจัยในภาควิชาการให้สามารถใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น และ 3) การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยขอให้จังหวัดในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 16 จังหวัด ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และร่วมกันประมวลข้อเสนอความต้องการและแนวทางการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทย สศช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษต่อไป 


-----------------------------




สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-2804085 (40 คู่สาย) แฟกซ์ : 0-2281-3938 E-mail : pr@nesdc.go.th , webmaster@nesdc.go.th
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์