ข่าวสาร/กิจกรรม
การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณากลั่นกรอง โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
(จำนวนผู้เข้าชม  101)
เมื่อวันที่ 6 - 7 พฤศจิกายน 2564 ณ โรงแรมต้นอ้อย แกรนด์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เพื่อพิจารณาและกลั่นกรองข้อเสนอแผนงานโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (เฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะทำงาน ช่วยอำนวยการฯ สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

โดยประธานฯ ได้เน้นย้ำให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากผลการเบิกจ่ายงบประมาณจะถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาวงเงินงบประมาณของจังหวัดในปีต่อไป รวมทั้งโครงการต้องมีความพร้อมในการดำเนินการ ทั้งแบบรูปรายการและการได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ รวมถึงให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้กับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ดังนี้

1. การจัดทำแผนของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและแก้ไขปัญหาของพื้นที่ มีการรับฟังข้อเสนอและข้อคิดเห็นของภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบูรณาการการดำเนินการร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนแผนไปสู่การบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด โดยโครงการต้องมีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที มีผลผลิตและผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีการบริหารจัดการโครงการเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนของโครงการ รวมถึงต้องมีการจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของพื้นที่ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด จังหวัดและกลุ่มจังหวัดไม่ควรมีการโอนเปลี่ยนแปลงโครงการและงบประมาณ เนื่องจากจะทำให้แผนที่วางไว้ไม่มีการนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้

2. ควรให้ความสำคัญในการฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคบริการ สำหรับภาคเกษตรควรเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร อาทิ การแปรรูป และการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนภาคบริการให้หน่วยงานภาครัฐใช้จ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้มากยิ่งขึ้น อาทิ การศึกษาดูงาน การจัดประชุม อบรม และสัมมนาในโรงแรมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ

3. ควรให้ความสำคัญกับโครงการที่สนับสนุนการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อสร้างจิตสำนึกและลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

4. จังหวัดควรจะต้องมีแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับแผนในกรณีที่จำเป็น เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งให้ความสำคัญกับวิถี New Normal ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อสร้างช่องทางการตลาด

ข่าวโดย สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ สศช. ณ 6 พฤศจิกายน 2564

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 962 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 02-2804085 (40 คู่สาย) แฟกซ์ : 0-2281-3938 E-mail : pr@nesdc.go.th , webmaster@nesdc.go.th
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์